นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ว่าเป็นการเอื้อนายทุนว่า หากดูในแง่ของเศรษฐกิจโดยรวม หากคนซื้อบ้าน 1 หลัง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจของผู้ประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่คนที่จะสร้างบ้านเองก็มีส่วนร่วมในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ซึ่งที่ผ่านมา หลายรัฐบาลก็มีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ เพราะผ่านหลายขั้นตอนมาแล้ว ทั้งกระทรวง ทบวง กรม รวมถึงกฤษฎีกา และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ได้ให้ความเห็นมา
ส่วนถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยว่า เป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจซื้อบ้าน ส่วนตัวคิดว่า จุดยืนของตนชัดเจนเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน นักวิชาการทั้งหมดก็เห็นด้วยในการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะเมื่อลดแล้ว เชื่อว่าผลข้างเคียงทางเศรษฐกิจ จะเป็นบวกมากกว่าลบ ไม่ว่าจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้การส่งออกของไทยดีขึ้น ซึ่งเราพึ่งพาการส่งออก 60% ของจีดีพี การท่องเที่ยวอีก 20% และ 1 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถแลกได้ 36-38 บาท มีเงินจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้อยู่แต่โรงแรมใหญ่ๆ หรือเอื้อแต่เจ้าสัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของการช็อปปิ้ง รับประทานอาหาร ทุกคนได้ประโยชน์ เป็นเศรษฐศาสตร์พื้นฐานที่ทุกคนทราบดี ซึ่งตนไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไป เพราะพูดมามากแล้ว พอแล้ว ก็เป็นหน้าที่ให้คนอื่นพูดบ้าง
“เดี๋ยวจะหาว่าไปกดดัน ผู้ว่าฯ ธปท. อีก เพราะมีอิสระ แต่ก็ฝากไว้ว่า ความเป็นอิสระ มันไม่ได้อิสระจากความลำบากของประชาชน ขอให้นึกถึงความลำบากของประชาชนด้วย วันนี้ผมไม่ได้กดดันอะไรแล้ว แต่ผลที่ออกมา เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินเองแล้วกัน ว่าควรจะต้องลด หรือไม่ลด” นายเศรษฐา กล่าว