นายกฯ ย้ำเป้าหมายของรัฐบาลเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ประเทศ ความยั่งยืนการคลัง เปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เดินหน้าเป็นสมาชิก OECD 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการทางวิชาการ ด้านการงบประมาณ OECD Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดโดยสำนักงบประมาณ ร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)โดยไทยได้ก้าวมาถึงหมุดหมายสำคัญ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ส่งมอบบันทึกเบื้องต้น (Initial Memorandum) แก่รองเลขาธิการ OECD เพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการทบทวนเชิงเทคนิคในระยะต่อไป พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ต่อกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ซึ่งความร่วมมือระหว่างไทย และเวที Asian Senior Budget Officials จะมีบทบาทสำคัญ ที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ รวมถึงโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากร ระหว่างสำนักงบประมาณ และ OECD ตลอดเวลากว่า 2 ทศวรรษ ได้เสริมสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นบนพื้นฐานของเป้าหมายร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับตั้งแต่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการประชุม OECD ครั้งที่ 2 ในปี 2545 เวทีนี้ได้สะท้อนถึงความร่วมมืออันยืนยาว ระหว่างไทยกับ OECD และได้พัฒนาขึ้นเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เสริมสร้างธรรมาภิบาลทางการคลัง และยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

การประชุมในปีนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลก กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และความคาดหวังที่สูงขึ้นของประชาชนในเรื่องความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน

ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว การจัดทำงบประมาณอย่างรอบคอบ และการบริหารการคลังอย่างรับผิดชอบ ไม่ได้เป็นเพียงภารกิจเชิงเทคนิค แต่เป็นรากฐานของความเชื่อมั่นระหว่างรัฐบาล และประชาชน โดยไทยยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาความเชื่อมั่นนี้ไว้ โดยเป้าหมายของรัฐบาล ต้องการเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ประเทศ และส่งเสริมการใช้จ่ายภาครัฐให้เกิดประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าสูงสุด ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การปฏิรูปกฎหมายอย่างรอบด้าน และการเสริมสร้างธรรมาภิบาลดิจิทัลที่ยั่งยืน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลถือว่าวินัยการคลัง ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ เป็นหัวใจสำคัญของการบริหารประเทศ โดยมีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดสำคัญ และต้องการให้เม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน พร้อมเสริมสร้างความยั่งยืนระยะยาวของประเทศ

สำหรับ หัวข้อหลักของการประชุมปีนี้ที่ให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืนทางการคลัง การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล และการเสริมสร้างศักยภาพภาครัฐ” สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกรอบนโยบายการคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพพร้อมสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งรัฐบาลไทยกำลังเดินหน้าปรับปรุงระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐ ด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล และพิจารณาการใช้เทคโนโลยี AI อย่างรับผิดชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความโปร่งใสของระบบราชการ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ด้านการคลังแก่ประชาชน และผลักดันการมีส่วนร่วมของสาธารณชน เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนในสังคมไทย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles