การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมนั้น นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า การจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท เพื่อมาใช้ดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลตนั้น
ที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็นการกู้ชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 2567 วงเงิน 1.12 แสนล้านบาท และจัดเก็บรายได้เพิ่มเติมวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ 28 พ.ค. 67
นายเฉลิมพล กล่าวว่า กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมทั้งหมด 1.22 แสนล้านบาท จะนำไปใช้เป็นในโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ในส่วนของการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายปี’67 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การอนุมัติกรอบกู้ชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 2567 ในวงเงิน 1.12 แสนล้านบาทนั้น จะส่งผลให้กรอบการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 0.14% ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 68% แต่ไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลังที่กำหนดเพดานหนี้สาธารณะไว้ที่ 70% ต่อจีดีพี