ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เปิดเผยผลการสำรวจเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และ เฟส 4 ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2568 พบว่า 83.66% ของกลุ่มตัวอย่างเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 10% จากการสำรวจในปี 2567 ผ่านมา
ถัดมา 9.70% เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องหาทางแก้ไขแต่ไม่เร่งด่วน มี 4.2% เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ไม่น่าวิตกกังวลใด ๆ และมีเพียง 2.44 ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวลดลงทั้งหมดจากการสำรวจในปี 2567 ผ่านมา ที่เคยอยู่ที่ระดับ 20.15%, 10.08% และ 5.65% ตามลำดับ สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้มีความจำเป็นมากขึ้นในการหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
สำหรับการเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจของประชาชนในขณะนี้ พบว่า 47.17% ของกลุ่มตัวอย่างเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 11% จากการสำรวจในปี 2567 ผ่านมา
ถัดมา 29.47% เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่สามารถรับมือได้ด้วยตนเอง มี 15.80% เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลแต่ไม่เร่งด่วน และ 7.56% ไม่ได้เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจใด ๆ ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวลดลงทั้งหมดจากการสำรวจในปี 2567 ผ่านมา ที่เคยอยู่ที่ระดับ 31.91%, 20.45% และ 10.92% ตามลำดับ สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้มีความจำเป็นมากขึ้นที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวทำจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง