นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นค่ายผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ชื่อดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่าเตรียมตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ผ่าน 3 มาตรการสำคัญได้แก่ ดำเนินการปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวน 9,000 คน ปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ลงมากถึง 20% จากกำลังการผลิตในปัจจุบัน และขายหุ้นในสัดส่วน 10% ที่นิสสัน มอเตอร์ ถืออยู่ในค่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ที่ 34% คืนกลับให้ขายรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์
นอกจากนี้ฝ่ายบริหารระดับสูงของบริษัทมอเตอร์ได้ปรับลดมุมมอง รายได้จากการดำเนินงานทั้งปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดเดือนมีนาคมปี 2025 จากเดิม 500,000 ล้านเยน หรือกว่า 111,500 ล้านบาท ลงมาเหลือเพียง 150,000 ล้านเยน หรือกว่า 33,450 ล้านบาท หรือปรับลดลงมากถึง 70% จากเป้าหมายเดิม สอดรับกับการปรับลดมุมมองผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงระยะเวลาเดียวกันจากเดิมที่ 600,000 ล้านเยน หรือ 133,800 ล้านบาท เหลือที่ 500,000 ล้านเยน หรือ 111,500 ล้านบาท
สาเหตุจาก แบรนด์รถยนต์นิสสันต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและเข้มข้นตลอดเวลาทั้งจากแบรนด์รถยนต์ในเอเชียโดยเฉพาะจีน เช่น บีวายดี และแบรนด์รถยนต์จากสหรัฐอเมริกา เช่น เทสลา ซึ่งการตัดสินใจตัดลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวนั้น นับเป็นความท้าทายและความพยายามครั้งล่าสุดของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO นิสสัน มอเตอร์ ชื่อว่า นายมาโกโตะ ยูชิดะ ที่ได้ประกาศไว้ว่าจะปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ท่ากลางยอดขายรถยนต์ของแบรนด์นิสสันชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ด้านผลประกอบการของนิสสัน มอเตอร์ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งสิ้นสุดเดือนกันยายนผ่านมา พบว่า สามารถทำกำไรสุทธิที่ 32,000 ล้านเยน หรือกว่า 7,136 ล้านบาท ซึ่งผลกำไรดังกล่าวนั้นพลาดเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะต้องมีกำไรสูงถึง 65,000 ล้านเยน หรือกว่า 14,495 ล้านบาท หรือพลาดเป้าถึง 51% จากเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ เมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ ได้ประกาศปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2024 จากเดิมที่ 3.7 ล้านคัน ลดลง 50,000 คัน มาอยู่ที่ 3.65 ล้านคัน ท่ามกลางยอดขายรถยนต์นิสสันทั่วโลกในระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายนผ่านไปนั้น ทำได้ที่ 1.6 ล้านคัน ลดลง 4%