ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายอีวาน เอสปิโนซ่า เปิดเผยว่า นิสสัน มอเตอร์ ค่ายผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจอย่างชัดเจน และเป็นทางการ ด้วยการปิดโรงงานชื่อว่าออพพามา (Oppama) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์นิสสันระดับตำนานแห่งหนึ่ง โดยเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1961 หรือเมื่อ 64 ปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่ที่จังหวัดคานากาว่า สำหรับการปิดโรงงานดังกล่าวจะมีขึ้นภายในสิ้นสุดปีงบประมาณ 2027 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 เดือนมีนาคม 2028 หรืออีก 2 ปีจากนี้ไป ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้จ้างงาน 2,400 คนจากทั้งหมด 4,200 คน มีกำลังการผลิตปีละ 240,000 คัน เมื่อเดือนตุลาคมปี 2024 โรงงานแห่งนี้เป็นที่ผลิตรถนิสสันรุ่นลีฟ(Leaf) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถอีวีจำนวนมากแห่งแรกของนิสสัน
ในเวลาเดียวกัน นิสสัน มอเตอร์ จะทำการโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานออพพามา (Oppama) ไปรวมกับโรงงานนิสสันคิวชูในจังหวัดฟุกุโอกะ รวมถึงภายในปีงบประมาณ 2026 นิสสันจะยุติการผลิตรถยนต์ที่โรงงานนิสสันโชนัน ในจังหวัดคานางาวะ ซึ่งเป็นของบริษัทย่อยของนิสสัน ชะไต ด้วย
ซีอีโอนิสสัน กล่าวยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวด แต่มีความจำเป็นต้องทำเพื่อการฟื้นฟูกิจการบริษัทนิสสัน ที่สำคัญ จากนี้ไป นิสสันยืนยันว่าจะไม่ปรับลดฐานการผลิตในญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีก ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้ว นิสสันอยู่ระหว่างการพูดคุยกับบริษัท ฮอนไฮ พรีซิชั่น หรือรู้จักกันดีว่าฟ็อกซ์คอนน์จากไต้หวัน เพื่อหใชเป็นพันธมิตรในการใช้พื้โรงงานออพพามาผลิตรถอีวีในอนาคต
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2025 ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยว่าฝ่ายบริหารระดับสูงเตรียมปิดโรงงานผลิตรถยนต์นิสสัน 2 แห่งในประเทศญี่ปุ่นและพิจารณาปิดโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ในต่างประเทศซึ่งในเบื้องต้นจะเป็นโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ทวีป อเมริกาใต้ เอเชีย เอเชียใต้ และแอฟริกา ข้อมูลการเตรียมปิดโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์นิสสันดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการปิดโรงงานนิสสันเพิ่มขึ้นทั้งหมด 7 แห่งตามที่ได้แถลงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันแถลงผลประกอบการนิสสันตามปีงบประมาณ 2024 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2025
แหล่งข่าวจากผู้บริหารระดับอาวุโสสูงสุดของ นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า โรงงานผลิตรถยนต์นิสสันที่จะถูกปิดตัวลงในประเทศญี่ปุ่นได้แก่โรงงานชื่อว่าออพพามา (Oppama) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์นิสสันที่เก่าแก่แห่งหนึ่งโดยเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1961 หรือเมื่อ 64 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้จ้างงาน 3,900 คน มีกำลังการผลิตปีละ 240,000 คัน เมื่อเดือนตุลาคมปี 2024 โรงงานแห่งนี้เป็นที่ผลิตรถนิสสันรุ่นลีฟ(Leaf) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถอีวีจำนวนมากแห่งแรกของนิสสัน
โรงงานแห่งที่ 2 ที่จะปิดตัวลง มีชื่อว่าโชนัน (Shonan) ซึ่งเป็นโรงงานที่นิสสันถือหุ้นร่วม 50% ในบริษัทมีชื่อว่านิสสัน โชนัน ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้จ้างงาน 1,200 คน มีกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน เป็นการผลิตรถตู้เชิงพาณิชย์ของนิสสัน เมื่อปิดโรงงานทั้ง 2 แห่งดังกล่าวแล้วจะส่งผลให้นิสสันมอเตอร์เหลือโรงงานเพียง 3 แห่งเท่านั้น ได้แก่ โตชิงิ คิวชู และชาไตคิวชู ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดฟูกูโอกะในประเทศญี่ปุ่น
แหล่งข่าวรายเดิม และโยมิอุริ ชิมบุน ซึ่งเป็นสื่อและสำนักข่าวชื่อดังระดับประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า จากเป้าหมายที่ต้องปิดโรงงานทั้งหมด 7 แห่งนั้น นอกเหนือจากปิด 2 แห่งในประเทศญี่ปุ่นตามข้างต้นแล้ว จะพิจารณาการปิดโรงงานอีก 5 แห่งของนิสสันที่กระจายอยู่ในต่างประเทศ ได้แก่ โรงงาน 2 แห่งในประเทศเม็กซิโกที่อยู่ในอเมริกากลาง ประเทศอาร์เจนตินาในเอเชียใต้ ประเทศอินเดียในเอเชียใต้ และประเทศแอฟริกาใต้ในทวีปแอฟริกา
ในขณะที่นิสสันมอเตอร์ได้ประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ของบริษัทเกี่ยวกับแผนงานตัดลดค่าใช้จ่ายในด้านการปิดและยุบรวมสายการผลิตรวมถึงโรงงานว่านิสสันจะยุบรวมสายการผลิตรถกระบะรุ่นนาวาร่า และรุ่นฟร้อนท์เทียร์ในประเทศเม็กซิโกและประเทศอาร์เจนตินา โดยให้เป็นเพียงศูนย์กลางโรงงานนิสสันเพียงแห่งเดียว ที่โรงงานมีชื่อว่าซีแวคในเม็กซิโก
สำหรับในประเทศอินเดียนั้น นิสสัน มอเตอร์ ได้เปิดเผยไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า เรโนลท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ในฝรั่งเศส และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของนิสสัน มอเตอร์ จะซื้อหุ้นของนิสสันที่ลงทุนร่วมอยู่ในธุรกิจโรงงานประกอบรถยนต์นิสสันชื่อว่า เรโนลท์ นิสสัน ออโตโมทีฟ อินเดีย ไพรเวท์ หรือ RNAIPL ดังนั้นการปิดโรงงานประกอบรถยนต์นิสสันในประเทศอินเดียจะกลายเป็นการปิดโรงงานนิสสันครั้งแรกในรอบ 24 ปี หรือเมื่อปี 2001 ที่นิสสันได้ประกาศปิดโรงงานมีชื่อว่ามูนายาม่า
