นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เตรียมปลด หรือโยกย้ายพนักงานในโรงงานนิสสันของประเทศไทยจำนวน 1,000 คน เนื่องจากนโยบายให้ดำเนินการลดการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน นอกจากนี้ ยังเป็นนโยบายการลดจำนวนพนักงานนิสสันทั่วโลกจำนวน 9,000 คน ในขณะเดียวกัน นิสสันเตรียมยุติการผลิตบางส่วนของโรงงานนิสสันหมายเลข 1 และดำเนินการยุบรวมการผลิตไปกับโรงงานนิสสันหมายเลข 2 ที่อยู่ในไทย ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในกันยายนปี 2025
โฆษกของนิสสัน มอเตอร์ กล่าวว่า โรงงานหมายเลข 1 ของนิสสันในประเทศไทย ยังคงเป็นฐานในการผลิตรถรุ่นหลักสำคัญในไทย สำหรับในประเทศไทยนั้น นิสสัน มอเตอร์ มีโรงงานประกอบรถยนต์ในจังหวัดสมุทรปราการรวม 2 แห่ง มีกำลังการผลิตรวมกว่า 370,000 คันต่อปี ประกอบด้วย โรงงานหมายเลข 1 มีกำลังผลิตที่ปีละ 220,000 คัน และโรงงานหมายเลข 2 มีกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน โรงงานนิสสันทั้ง 2 แห่งในไทย จึงทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตของนิสสันที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือในอาเซียน ปัจจุบัน นิสสัน มอเตอร์ ผลิตรถรุ่น Kicks สำหรับตลาดในภูมิภาค และรุ่น Terra สำหรับตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา ด้านการขายรถยนต์แบรนด์นิสสันในประเทศไทย พบว่า ในปีงบประมาณผ่านมา ยอดขายในประเทศไทยทรุดต่ำลงอย่างมากถึง -30% มียอดขายรวมที่ 14,000 คัน
ในคืนผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่าพนักงานของนิสสันจำนวน 1,020 คนหรือคิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงาน 17,000 คนทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ได้ตกลงยอมรับข้อเสนอการเกษียณอายุก่อนถึงเวลาที่กำหนด พนักงานนิสสันทั้งหมด 1,020 คนจะต้องออกจากบริษัทนิสสันภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามส่วนหนึ่งของแผนการปลดพนักงานนิสสันจำนวน 9,000 คนทั่วโลก
เมื่อ 2 วันผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น นายมาโกโตะ ยูชิดะ กล่าวว่า นิสสันไม่สามารถที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์ หรือรถยนต์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าภายในเวลาที่เหมาะสม นิสสันรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความรับผิดชอบที่มีต่อธุรกิจและลูกค้าของเรา
สำหรับผลการดำเนินงานของนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น โดยเฉพาะด้านกระแสเงินสดสะสมนั้น พบว่า ในช่วง 6 เดือนติดต่อกัน หรือตั้งแต่เมษายนถึงกันยายนปีนี้ ภาพรวมกระแสเม็ดเงินสดในการใช้ดำเนินธุรกิจลดต่ำลงมาก หรือติดลบมากถึง 448,300 ล้านเยน หรือกว่า 110,867 ล้านบาท ประกอบด้วย กระแสเงินสดจากการดำเนินงานหดหาย หรือติดลบมากถึง 234,000 ล้านเยน หรือกว่า 52,650 ล้านบาท และกระแสเงินสดสำหรับการลงทุนลดต่ำลง หรือติดลบมากถึง 214,300 ล้านเยน หรือกว่า 48,218 ล้านบาท
ภาพรวมและรายละเอียดของกระแสเงินสดสำหรับนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่นดังกล่าวเป็นไปในทางที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ 2023 หรือเมื่อ 1 ปีผ่านมา ที่ในช่วงเวลานั้นกระแสเงินสดในภาพรวมยังคงเป็นบวกมีอยู่ที่ 193,900 ล้านเยน หรือกว่า 43,628 ล้านบาท
สถานการณ์กระแสเงินลดของนิสสันที่ติดลบลงอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าวขิงปีงบประมาณปัจจุบัน พบว่าใกล้เคียงกับหลายช่วงเวลาในอดีตผ่านมา เช่น ช่วงเมษายนถึงกันยายนในปี 2020 หรือช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 มีกระแสเงินสดติดลบมากเกือบ 504,600 ล้านเยน หรือกว่า 113,535 ล้านบาท นอกจากนี้ นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เคยมีกระแสเงินสดติดลบ 414,900 ล้านเยน หรือกว่า 93,353 ล้านบาทในช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ในต้นปี 2019 เนื่องจากเผชิญกับปัญหายอดขายตกต่ำหนัก จึงต้องประกาศแผนลดขนาดองค์กร และปลดพนักงานออกมากถึง 12,500 คน
ปัจจุบันเมื่อนับถึงวันที่ 30 กันยายนผ่านมา กระแสเงินสดในภาพรวมทั้งเงินสดและสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดของนิสสัน มอเตอร์ อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านเยน หรือกว่า 315,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 31 มีนาคมผ่านมา ปรากฏว่าหดหายไปมากถึง 575,900 ล้านเยน หรือกว่า 139,578 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024 นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลกำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนติดกัน หรือตั้งแต่เมษายนถึงกันยายนผ่านมา มีกำไรทรุดต่ำหนักถึง -94% มาเหลืออยู่ที่ 19,200 ล้านเยน หรือ 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4,340 ล้านบาท เตรียมตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ผ่าน 3 มาตรการสำคัญได้แก่ ดำเนินการปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวน 9,000 คน ปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ลงมากถึง 20% จากกำลังการผลิตในปัจจุบัน และขายหุ้นในสัดส่วน 10% ที่นิสสัน มอเตอร์ ถืออยู่ในค่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ที่ 34% คืนกลับให้ขายรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์