ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.3% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.79 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.3% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.9% ส่งผลเป็นราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 30 เมษายน หรือในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดสวนทางกันกัน +0.2% และ -0.2% ตามลำดับ
สาเหตุจากมุมมองของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาล้วนส่งสัญญาณในทิศทางเดียวกันว่า การลดดอกเบี้ยระยะสั้นยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ส่งผลให้ภาวะต้นทุนการเงินยังคงอยู่สูงต่อเนื่อง ซึ่งจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกในไทยถูกปรับราคาลดลงมีผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 โดยเฉพาะกลุ่มเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอล์ ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาขายลิตรละ 38.95 บาท นับเป็นราคาน้ำมันต่ำสุดในรอบ 8 วัน หรือนับตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2567 เป็นต้นมา นอกจากนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 มีการการปรับราคาน้ำมันรวม 25 ครั้ง (ไม่รวมการปรับราคาดีเซล) โดยเฉพาะในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ประกอบด้วยปรับขึ้นราคา 17 ครั้ง รวม +6.90 บาท/ลิตร และปรับราคาลง 8 ครั้ง รวม -2.40 บาท/ลิตร ส่งผลสุทธิราคาเพิ่มขึ้น +3.70 บาท/ลิตร