ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.2% ส่งผลราคาปิดลง 3 วันติดกันรวม -2.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.6% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.3% ส่งผลราคาปิดลง 3 วันติดกันรวม -2.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.1%
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -1% และ -0.6% ตามลำดับ ในเดือนพฤษภาคม ราคาน้ำมันดิบโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดดิ่งลง -6% และ -7.1% ตามลำดับ ทำสถิติราคาปิดร่วงลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ที่สำคัญ ยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายเดือนที่แย่ที่สุดในปีนี้ด้วย
สาเหตุจากนักลงทุนรอการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันนี้ 1 มิถุนายน โดยเฉพาะการตัดสินใจตรึงมติลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง เพื่อประเมินแนวโน้มและปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจะลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าร่วงลงกว่า 2% มาอยู่ที่ 2.40 ดอลลาร์สหรัฐ/แกลลอน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 เดือน สอดรับกับ ราคาน้ำมันดีเซลล่วงหน้าปิดตกต่ำมากสุดในรอบ 11 เดือน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในประเทศไทยปรับทั้งขึ้นและลดราคาโดยมีผลในวันนี้ 1 มิถุนายน 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงลิตรละ 30 สตางค์/ลิตร ในขณะที่ ขึ้นราคาดีเซลลิตรละ 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 6 ครั้งต่อเนื่องรวมขึ้น 3.00 บาท/ลิตร