ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.90% ส่งผลราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -3.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.99% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 81.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ส่งผลราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -2.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.18% ส่งผลให้ในเกือบจะสิ้นสุดสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -3% และ -4% ตามลำดับ
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.0% และ +1.0% ตามลำดับ
สาเหตุจากบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ยังไม่มีตัวเลขสำคัญที่บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อสหรัฐลดลงเข้าเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่จำเป็นที่จะเร่งลดดอกเบี้ยระยะสั้น ส่งผลต่อต้นทุนการบริโภคน้ำมันเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ สำนักงานข้อมูลพลังงาน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐกลับเพิ่มมากถึง 1.8 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในประเทศไทยลดราคาครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมผ่านมา โดยลดราคากลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ลงลิตรละ 40 สตางค์ ในขณะที่ขึ้นราคาดีเซลลิตรละ 50 สตางค์