ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -3.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.99% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.9% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -2.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.18% ซึ่งเป็นราคาลดลงติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน 3 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 2 มกราคมเป็นต้นมา
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -2.8% และ -2.1% ตามลำดับ
สาเหตุจากคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปจเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะมาถึง เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูร้อนในปีผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลกับบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ยังไม่มีตัวเลขสำคัญที่บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อสหรัฐลดลงเข้าเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่จำเป็นที่จะเร่งลดดอกเบี้ยระยะสั้น ส่งผลต่อต้นทุนการบริโภคน้ำมันเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในประเทศไทยปรับทั้งขึ้นและลดราคาโดยมีผลในเมื่อวันนี้ 25 พฤษภาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงลิตรละ 40 สตางค์/ลิตร ในขณะที่ ขึ้นราคาดีเซลลิตรละ 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 5 ครั้งต่อเนื่องรวมขึ้น 2.50 บาท/ลิตร หรือ +8.35% นับตั้งแต่ 5 เมษายนเป็นต้นมา หรือในรอบ 7 สัปดาห์ โดยมีราคาขายที่ลิตรละ 32.44 บาท/ลิตร