ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.8% ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบลดลง 4 วันติดกันรวม -1.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.6% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดสูงสุดในรอบ 4 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 6 พฤษจิกายน 2023
สาเหตุจากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำลงเหนือความคาดหมายถึง 1.5 ล้านบาร์เรล จากที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำลงเหนือความคาดหมายถึง 5.7 ล้านบาร์เรล จากที่คาดการณ์ว่าจะลดต่ำลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างยูเครนกับรัสเซียปะทุขึ้นครั้งใหม่ นับเป็นวันที่ 2 ที่ยูเครนใช้โดรนติดขีปนาวุธโจมตีทำลายโรงกลั่นน้ำมันรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซีย สร้างความเสียหายอย่างมากต่อโรงกลั่นดังกล่าว จึงคาดการณ์ว่ารัสเซียจะต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินมากกว่าปกติ ส่งผลราคาน้ำมันในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัสเซียประกาศยกเลิกส่งออกน้ำมันเบนซินเป็นเวลานาน 6 เดือน เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันเบนซินในประเทศมีราคาแพง
ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียมีความพร้อมทางเทคนิคสำหรับการทำสงครามอาวุธนิวเคลียร์ หากสหรัฐอเมริกาส่งทหารเข้าช่วยเหลือยูเครน สิ่งนี้จะกลายเป็นสาเหตุเร่งเพิ่มความขัดแย้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้านกลุ่มโอเปกพลัสมีมติขยายมาตรการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของกลุ่มโอเปกพลัสออกไปถึงสิ้นไตรมาสที่ 2 ปีนี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปีนี้ หลังจากเห็นตรงกันและมีมติร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 เป็นต้นมา ทำให้กลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตลงมากถึงวันละ 2.2 ล้านบาร์เรล
เมื่อสิ้นสุดปี 2023 พบว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลงกว่า -10% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดรายปีลดลงในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สำหรับในปี 2022 นั้น ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิด +7% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิด +10%
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล