ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.77% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +2.97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.87% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.83% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +2.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.33% ทำให้เป็นราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาดที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 30 พฤษภาคมผ่านมา
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -1.9% และ -2.5% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ร่วงต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดกัน ในเดือนพฤษภาคม ราคาน้ำมันดิบโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดดิ่งลง -6% และ -7.1% ตามลำดับ ทำสถิติราคาปิดร่วงลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ที่สำคัญ ยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายเดือนที่แย่ที่สุดในปีนี้ด้วย
สาเหตุจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางกลับมาตึงเครียดอีกหลังเมื่อกลุ่มฮามาสติดอาวุธที่อยู่ในฉนวนกาซายื่นข้อเสนอในการเจรจาหยุดยิงที่ยังไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ของหลายฝ่ายรวมถึงสหรัฐอเมริกาที่เข้าช่วยเจรจาแก้ไขปัญหา ขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 7 ต่อเนื่อง พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจลดดอกเบี้ยดังกล่าวเพียงครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นการประชุมในรอบสุดท้ายปีนี้ที่มีขึ้นในเดือนธันวาคม
สำนักบริหารจัดการข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ อีไอเอ ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกปี 2024 เป็นวันละ 1.10 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่วันละ 900,000 บาร์เรล ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลขคาดการณ์เดิม สาเหตุจากคาดการณ์ว่าความต้องการเดินทาง และท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ภาวะน้ำมันดิบตึงตัวจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 นี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนในสหรัฐอเมริกาที่มักจะมีการใช้รถยนต์เป็นจำนวนมากมาย เนื่องจากเป็นช่วงท่องเที่ยวไฮซีซั่น และยังคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะขึ้นไปที่ระดับ 86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาสที่ 3 นี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมัน มีผลวันที่ 12 มิถุนายน 2567 โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ขึ้น 40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาครั้งแรกในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่แพงขึ้นในรอบ 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนผ่านมา