ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 30 ธันวาคม 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 70.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.4% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +1.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.0% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.3% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +1.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด +1.4%
สาเหตุจากการคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐ และยุโรป เนื่องจากภาวะอุณหภูมิจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็วและยาวนานในฤดูหนาวขณะนี้ ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออึเอ เปิดเผยการคาดการณ์ว่า ในปี 2025 จะเกิดภาวะตลาดน้ำมันดิบล้นตลาด หรือเกินความต้องการบริโภคที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถ้ากลุ่มโอเปกพลัสมีมติเริ่มทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมีนาคมปี 2025 หากกลุ่มโอเปกพลัสยังคงมติลดกำลังการผลิตต่อเนื่องเมื่อถึงสิ้นไตรมาสที่ 1 ในปีหน้า ภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นมาเป็นวันละ 950,000 บาร์เรล
ขณะที่เมื่อวันพุธผ่านมา กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 และปี 2025 ครั้งใหม่ ซึ่งนับเป็นการปรับลดตัวเลขดังกล่าวเป็นครั้งที่ 5 ต่อเนื่อง สำหรับในปีนี้ ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.54 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 4 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2024