ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 31 ธันวาคม 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.03% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันรวมกัน +2.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.03% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.88% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันรวมกัน +1.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.35% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด +1.4%
ส่งผลให้ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากการคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐ และยุโรป เนื่องจากภาวะอุณหภูมิจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็วและยาวนานในฤดูหนาวขณะนี้ ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออึเอ เปิดเผยการคาดการณ์ว่า ในปี 2025 จะเกิดภาวะตลาดน้ำมันดิบล้นตลาด หรือเกินความต้องการบริโภคที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถ้ากลุ่มโอเปกพลัสมีมติเริ่มทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมีนาคมปี 2025 หากกลุ่มโอเปกพลัสยังคงมติลดกำลังการผลิตต่อเนื่องเมื่อถึงสิ้นไตรมาสที่ 1 ในปีหน้า ภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นมาเป็นวันละ 950,000 บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 4 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2024