ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 12 พฤศจิกายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 58.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.18% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 3 วันรวมกัน +1.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.65%
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 62.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.76% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 3 วันรวมกัน +1.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.81% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แหล่งสำคัญปิดลดลง -2%
สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยรายงานประจำเดือนพฤศจิากายน้อยว่าในปี 2026 ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการบริโภคเล็กน้อยถึงวันละ 20,000 บาร์เรล โดยคาดว่าความต้องการจะอยู่ที่วันละ 43 ล้านบาร์เรล รายงานดังกล่าวตรงข้ามกับรายงานในเดือนตุลาคมที่กลุ่มโอเปกพลัสคาดว่าในปี 2026 ตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดภาวะขาดสมดุล โดยปริมาณน้ำมันดิบจะลดต่ำกว่าความต้องการบริโภคถึงวันละ 70,000 บาร์เรล
ในสัปดาห์ผ่านไปกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเบาบางที่วันละ 137,000 บาร์เรลในเดือนธันวาคมนี้ และมีมติยุติการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบเป็นการชั่วคราวในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2026
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศหรือไออีเอ เปิดเผย การคาดการณ์ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกในปี 2026 พบว่าจะมีปริมาณน้ำมันดิบมากกว่าความต้องการบริโภคทั่วโลกสูงถึง 4,000,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากกลุ่มโอเปกพลัสยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของทั้งกลุ่มเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่กลางปี 2025 นี้ไปจนถึงปี 2026 ท่ามกลางแนวโน้มการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีหน้ายังคงชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวในทิศทางที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ กบน. มีมติให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -30 สตางค์/ลิตร ดีเซลลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 17 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินมีราคาถูกสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และดีเซลมีราคาขายถูกสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนผ่านมา