ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 28 ตุลาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 60.15 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.9% ส่งผลราคาน้ำมันปิดลง 3 วันติดต่อกันรวม -1.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.7%
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.9% ส่งผลราคาน้ำมันปิดลง 3 วันติดต่อกันรวม -1.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.5% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ผ่านไป เป็นราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมหรือในรอบ 20 วันผ่านมา และเป็นราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานในแง่เปอร์เซ็นต์ใน 1 วันทำการที่มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนหรือในรอบเกือบ 4 เดือนผ่านมา
สาเหตุจากนักลงทุนกลับมากังวลครั้งใหม่กับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ สหราชอาณาจักร และกลุ่มอียู กลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะมีการประชุมในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน โดยคาดว่าจะเพิ่มการผลิตปานกลาง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ แบะประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง จะพบหารือกันในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ที่เกาหลีใต้ เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปสุดท้ายเกี่ยวกับการค้าและภาษีของทั้ง 2 ชาติยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจในโลก
ธนาคารแบงค์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอาจดำดิ่งตกต่ำลงเหลือต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ถ้าหากสงครามภาษีและความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนกับทวีความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ กบน. มีมติให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -30 สตางค์/ลิตร ดีเซลลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 17 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินมีราคาถูกสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และดีเซลมีราคาขายถูกสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนผ่านมา