ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า น้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 73.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.5% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -3.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.13% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาปิดพุ่งทะยานถึง +9.1% ทำสถิติราคารายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มีนาคม 2023 เป็นต้นมา
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 76.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.8% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -4.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.43% โดยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมผ่านมามีราคาปิดแตะหลัก 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 สัปดาห์ หรือตั้งแต่สิงหาคมผ่านมา ในสัปดาห์ผ่านไปราคาปิดพุ่งทะยานถึง +8% ทำสถิติราคารายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคม 2023 เป็นต้นมา
สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากถึง 5.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่เมื่อวันอังคารผ่านมา กระแสข่าวที่มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มฮิซบอเลาะห์จะเปิดเจรจาหยุดยิงกับอิสราเอล ซึ่งยังไม่มีการยืนยันจากแหล่งข่าวที่ชัดเจนของทั้ง 2 ฝ่าย ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงสูงที่ยังคงมีอยู่ตลอดเวลาหลังจากกองทัพอิสราเอลบุกเข้าตอนใต้ของเลบานอน ขณะที่กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า สามารถสังหารผู้นำคนใหม่ที่ขึ้นมาแทนผู้นำคนเดิมซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพอิสราเอลเมื่อปลายเดือนกันยายน
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 8 ตุลาคม 2567 โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ +40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งที่ 2 ใน 4 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 11 วันผ่านมา ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมผ่านมา เป็นราคาน้ำมันถูกที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2566 มา ขณะที่สิ้นสุดไตรมาส 3 พบว่า ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกลดลง -3.50 บาทต่อลิตร หรือลดลง -9.03%