น้ำมันดิบโลกปิดลงเกือบ 2 ดอลลาร์ ฉุดเกือบ 3% เหลือกว่า 70 ดอลลาร์ เฮอริเคนราฟาเอลอ่อนกำลังลง จีนทุ่มเงินครั้งใหญ่แก้หนี้กลับไม่ได้ใจนักลงทุน ราคาน้ำมันในไทยสูงสุดในเกือบเดือนทรงตัวต่อวันที่ 3 ติดกัน

น้ำมันดิบ โลกปิดลงเกือบ 2 ดอลลาร์ ฉุดเกือบ 3% เหลือกว่า 70 ดอลลาร์ เฮอริเคนราฟาเอลอ่อนกำลังลง จีนทุ่มเงินครั้งใหญ่แก้หนี้กลับไม่ได้ใจนักลงทุน ราคาน้ำมันในไทยสูงสุดในเกือบเดือนทรงตัวต่อวันที่ 3 ติดกัน

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 70.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.7% ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 73.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.3%

สาเหตุจากนักลงทุนคลายกังวลกับผลกระทบที่จะเกิดกับแหล่งผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกหลังจากพายุเฮอริเคนลูกใหม่ชื่อว่าราฟาเอลอ่อนกำลังลงมาอยู่ในระดับ 2 ท่ามกลางผู้ผลิตน้ำมันดิบในบริเวณดังกล่าวได้ยุติการผลิตน้ำมันดิบทำให้มากกว่า 23% ของการผลิตน้ำมันดิบหดหายไป ขณะเดียวกัน มาตราการแก้ไขหนี้สาธารณะของรัฐบาลในแต่ละมณฑลของจีนที่รัฐบาลกลางจีนประกาทุ่มเงินถึง 1 ล้านล้านหยวน กลับถูกมองว่าไม่เพียงพอต่อการจัดการปัญหาหนี้ดังกล่าวได้ นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนตุลาคมกลับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณใหม่เกี่ยวกับการชะลอปรับขึ้นกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มในเดือนธันวาคมนี้

นักลงทุนยังคงวิเคราะห์และชั่งน้ำหนักกับนโยบายพลังงาน และการค้าระหว่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ซึ่งประกาศชัดเจนว่าจะเน้นการขุดเจาะแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือแหล่งน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้น นโยบายการขึ้นภาษีสูง 60% กับสินค้าจีน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจจีน ทำให้การบริโภคน้ำมันดิบของจีนจะลดลง

กลุ่มโอเปกพลัสประกาศปรับลดแนวโน้มความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 และปี 2025 ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ที่ปรับลดลงในปีนี้ สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจีนนั้น กลุ่มโอเปกพลัสลดตัวเลขคาดการณ์บริโภคน้ำมันดิบของจีนปี 2024 นี้ ลงเหลือ 580,000 บาร์เรลต่อวันจากเดิมที่ 650,000 บาร์เรลต่อวัน

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ +40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งที่ 2 ติดต่อกันในรอบ 3 วันผ่านมารวมขึ้น 70 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบเฉียด 1 เดือน หรือตั้งแต่ 12 ตุลาคมผ่านมา

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles