ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 22 พฤศจิกายน 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.0% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.6% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.30% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.25% ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปรับเพิ่มสูงขึ้น +6% นับเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดในรอบ 17 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนผ่านมา
ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา
สาเหตุจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงมีอยู่ในระดับสูง เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคพิสัยระยะกลางเข้าโจมตีฐานที่ตั้งทางทหารในประเทศยูเครน พร้อมเตือนว่าประเทศในโลกตะวันตกว่ารัสเซียอาจจะโจมตีฐานที่ตั้งทางทหารของประเทศใดๆ ก็ตามที่ให้การสนับสนุนอาวุธที่มีต่อยูเครน และสงครามจะกลายเป็นความขัดแย้งระดับโลก กลุ่มโอเปกพลัสจะมีการประชุมวันที่ 1 ธันวาคมนี้ อาจทบทวนมติให้เลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบออกไปอีก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 7 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 14 วัน หรือตั้งแต่ 7 พฤศจิกายนผ่านมา