ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 13 พฤศจิกายน 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.5% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.6% ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.5% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.56%
สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 และปี 2025 ครั้งใหม่ ซึ่งนับเป็นการปรับลดตัวเลขดังกล่าวเป็นครั้งที่ 4 ต่อเนื่อง สำหรับในปีนี้ ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.54 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โอเปกพลัสลดตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของประเทศจีนมีแนวโน้มลดลงจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาต่อเนื่องไปในปี 2025 ส่งผลกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ใช้น้ำมันดิบของจีนจากเดิมจะเพิ่มขึ้นวันละ 580,000 บาร์เรล ลงมาอยู่ที่เพิ่มขึ้นเพียงวันละ 480,000 บาร์เรล หรือลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณใหม่เกี่ยวกับการชะลอปรับขึ้นกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มในเดือนธันวาคมนี้
เศรษฐกิจจีนไม่มีสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัว หรือแม้แต่สัญญาณบวกทางจิตวิทยากับการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนครั้งใหญ่ ภาวะเงินเฟ้อเดือนตุลาคมในจีนเพิ่มขึ้นแต่น้อยที่สุดในรอบ 4 เดือนผ่านมา สะท้อนภาวะแรงกดดันต่อสถานการณ์เงินฝืดเคืองในจีน ขณะเดียวกัน มาตราการแก้ไขหนี้สาธารณะของรัฐบาลในแต่ละมณฑลของจีนที่รัฐบาลกลางจีนประกาศทุ่มเงินถึง 10 ล้านล้านหยวน หรือ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 49 ล้านล้านบาทกลับถูกมองว่าไม่เพียงพอต่อการจัดการปัญหาหนี้ดังกล่าวได้ นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนตุลาคมกลับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ -30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 10 วันผ่านมา ซึ่งขึ้นราคารวมขึ้น 70 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 8 วัน หรือตั้งแต่ 7 พฤศจิกายนผ่านมา