ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -5.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.17%
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ส่งผลเป็นราคาปิดสูงสุดในรอบ 24 วัน หรือนับตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนเป็นต้นมา เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายนผ่านมา เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 ที่ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเป็นราคาปิดต่ำสุดในรอบดังกล่าวด้วย ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -6.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.57%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง เพิ่มขึ้น +4% และ +4% ตามลำดับ
สาเหตุจากธนาคารกลางจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่นับตั้งแต่วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 หรือในรอบ 5 ปี มีทั้งลดดอกเบี้ยระยะสั้น ลดสำรองเงินขั้นต่ำในธนาคาร เติมสภาพคล่องกับระบบการเงิน กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และตลาดหุ้นจีน กลุ่มโอเปกพลัสปรับเพิ่มมุมมองความต้องการใช้น้ำมันโลกถึงปี 2050 จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 กันยายน 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง -40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งแรกใน 11 วันผ่านมา และหยุดการลดราคาถึง 10 ครั้งต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมมาถึงวันที่ 10 กันยายน ซึ่งรวมลดลงสะสม -3.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 11 วันหรือตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนผ่านมา
