ตลาดซื้อขาย น้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า น้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.94% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลงรวม 6 วันติดกัน -7.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -9.55% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.68% ก่อนหน้านี้ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 15 วันผ่านมา
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาด ร่วงลงมากถึง -8% และ -7% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ 2 กันยายนเป็นต้นมา
สาเหตุจากการโจมตีของอิสราเอลยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยพุ่งเป้าหมายทำลายไปยังเครือข่ายการเงินของกลุ่มฮิซบอเลาะห์ในประเทศเลบานอน นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ที่กองทัพอิสราเอลอาจโจมตีอิหร่านโดยตรง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในสัปดาห์ผ่านไปที่ดำดิ่งกว่า -8% ส่งผลให้มีการปรับตัวขึ้นของราคาในทางเทคนิคด้วย
กลุ่มโอเปกพลัสประกาศปรับลดแนวโน้มความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 และปี 2025 ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ที่ปรับลดลงในปีนี้ สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจีนนั้น กลุ่มโอเปกพลัสลดตัวเลขคาดการณ์บริโภคน้ำมันดิบของจีนปี 2024 นี้ ลงเหลือ 580,000 บาร์เรลต่อวันจากเดิมที่ 650,000 บาร์เรลต่อวัน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 17 ตุลาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ -0.50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกใน 13 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกสุดในรอบ 10 วันผ่านมา