ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 20 พฤศจิกายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 59.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.50% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดลดลงสองวันติดต่อกันรวม -1.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.60%
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 63.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.2% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดลดลงสองวันติดต่อกันรวม -1.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.30%
สาเหตุจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าจะมีการทบทวนกรอบแนวทางการยุติสงครามระหว่างยูเครนกับประเทศรัสเซีย โดยประเทศยูเครนต้องยอมรับกรอบแนวทางการสร้างสันติภาพที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้ร่าง และนำเสนอให้กับทั้งสองฝ่าย แหล่งข่าวระดับสูงจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่าข้อเสนอดังกล่าวจะทำให้ประเทศยูเครนต้องยอมสูญเสียดินแดนและอาวุธ
กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยรายงานประจำเดือนพฤศจิากายน้อยว่าในปี 2026 ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการบริโภคเล็กน้อยถึงวันละ 20,000 บาร์เรล โดยคาดว่าความต้องการจะอยู่ที่วันละ 43 ล้านบาร์เรล รายงานดังกล่าวตรงข้ามกับรายงานในเดือนตุลาคมที่กลุ่มโอเปกพลัสคาดว่าในปี 2026 ตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดภาวะขาดสมดุล โดยปริมาณน้ำมันดิบจะลดต่ำกว่าความต้องการบริโภคถึงวันละ 70,000 บาร์เรล
ทั้งนี้ กบน. มีมติให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -30 สตางค์/ลิตร ดีเซลลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 17 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินมีราคาถูกสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และดีเซลมีราคาขายถูกสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนผ่านมา