เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านพลังงานชื่อดังระดับโลกที่อยู่ภายใต้บริษัทเอสแอนด์พี ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ภาวะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2025 นี้มีแนวโน้มที่จะมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษทะเลเหนือ คาดการณ์ว่าจะมีราคาร่วงลงไปเคลื่อนไหวที่ระดับ 55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลภายในสิ้นปี 2025 นี้
สาเหตุจากหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดภาวะตลาดน้ำมันดิบล้นความต้องการบริโภคในปี 2025 นี้ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งได้มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สองมาถึงมติครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ยังยังคงเพิ่มการผลิตของทั้งกลุ่มต่อไปในเดือนตุลาคมนี้ รัสเซียมีแนวโน้มเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เพื่อหาช่องทางในการขายน้ำมันดิบให้กับกลุ่มประเทศพันธมิตรด้วยความหวังที่จะมีรายได้เข้าสู่ประเทศมาชดเชยกับผลกระทบที่ได้รับจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของโลกตะวันตกมาเป็นเวลากว่า 3 ปีครึ่ง
นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและจีน มีสัญญาณของการชะลอตัวในปี 2025 ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้า และสงครามภาษีส่งผลให้จีนซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันดิบมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลกมีความต้องการบริโภคน้ำมันดิบชะลอตัวลงอีกด้วย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงเมื่อวันศุกร์ที่ห้ากันยายน 2025 ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษทะเลเหนือ ร่วงลงมากถึง 11% เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายนผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 65.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.22% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์หรือนับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดลง 3 วันติดต่อกันรวม -3.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.53%
