บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งเป็นสำนักวิจัยข้อมูลเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน และการลงทุนชั้นนำระดับโลก โดยอยู่ในสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ที่เป็นสื่อเศรษฐกิจการเงินการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า ในปี 2023 บริษัทชั้นนำต่างประเทศจดทะเบียนตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในเอเชียที่ประเทศสิงค์โปร์มีจำนวน 4,200 บริษัท ส่งผลให้ประเทศสิงค์โปร์มีจำนวนบริษัทต่างประเทศย้ายมาตั้งสำนักงานระดับภูมิเอเชียเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญ มีจำนวนบริษัทต่างประเทศมากกว่าฮ่องกงซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของประเทศสิงค์โปร์ ที่มีบริษัทต่างประเทศตั้งอยู่เป็นจำนวนเพียง 1,336 บริษัทในปีผ่านไป
สิงค์โปร์ เป็นที่รู้จักกันมานาน และได้รับการเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียเกรดพรีเมียมของบริษัทต่างประเทศจากทั่วโลก ที่สำคัญ ยังพบว่าบริษัทสัญชาติจีนจากจีนแผ่นดินใหญ่ยังเลือกประเทศสิงคโปร์ให้เป็นที่ตั้งสำนักงานระดับภูมิภาคเอเชียมากกว่าฮ่องกง สาเหตุจากปัญหาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ และการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา
รายงานดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุผลและปัจจัยบวกที่ดึงดูดบริษัทต่างประเทศเข้ามาตั้งสำนักงานในสิงค์โปร์ เนื่องจากสิงคโปร์มีนโยบายการต่างประเทศกับประเทศจากโลกตะวันตกที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับฮ่องกงที่ถึงแม้จะมีอำนาจปกครองพิเศษอย่างคล่องตัว แต่ก็ตกอยู่ภายใต้อธิปไตยของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ สิงคโปร์เป็นแหล่งผลิตและรวบรวมบุคลากรและพนักงานที่มีความเก่งและความสามารถสูงจำนวนมากมาย ระบบเศรษฐกิจที่กระจายความหลากหลายบนข้อจำกัดของขนาดประเทศและทรัพยากรธรรมชาติ และนโยบายภาษีที่มีแรงจูงใจอย่างมากให้บริษัทต่างประเทศ
โดยเฉพาะนโยบายภาษีกับบริษัทหรือธุรกิจต่างประเทศ พบว่า ถึงแม้รัฐบาลฮ่องกงจะลดภาษีนิติบุคคลลงมาเหลือเพียง 16.5% ก็ตาม แต่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงจากระดับ 17% ลงต่ำอีกมาอยู่ที่ระดับ 13.5% และในบางประเภทธุรกิจของนักลงทุนต่างชาตินั้น รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศลดภาษีนิติบุคคลลงต่ำกว่าระดับ 13.5% ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับโลกที่มาตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียในประเทศสิงคโปร์ เช่น เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น, ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น, อัลฟาเบธ อินคอร์ปอเรชั่น, มี๊ด จอห์นสัน, โรลส์-รอยซ์ และเจนเนอรัล มอเตอร์ เป็นต้น