พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล หรือพีแอนด์จี (P&G) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าอุปโภคสำหรับผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าเตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่เป็นจำนวน 7,000 คน หรือคิดเป็น 15% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่อยู่ใน สำนักงานใหญ่และสำนักงานอื่นๆ สำหรับการปลดพนักงานในครั้งนี้จะใช้เวลาภายใน 2 ปีจากนี้ไป ในเวลาเดียวกัน ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า พีแอนด์จีจะทำการทบทวนแบรนด์ที่อยู่ในเครือทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ต้องยุติการผลิตสินค้าบางประเภท รวมถึงยกเลิกการทำแบรนด์บางยี่ห้อ การดำเนินนโยบายดังกล่าวส่งผลให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าอุปโภคภายใต้แบรนด์ต่างๆของพีแอนด์จี
สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายเงินรวมถึงมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศซึ่งมีผลให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าอุปโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นและมีผลกระทบต่อราคาขายที่หลีกเลี่ยงได้ยากจะต้องปรับขึ้นราคานั้นผู้ผลิตหลายรายพยายามที่จะ ตัดลดต้นทุนเพื่อที่จะลดภาระให้กับผู้บริโภคได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายโจน โมเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ พีแอนด์จี กล่าวว่า บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าในปีงบประมาณหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป สาเหตุสำคัญมาจากแรงกดดันของภาษีนำเข้าสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามก่อนที่จะถึงกำหนดเวลาในการปรับขึ้นราคาสินค้านั้นบริษัทจะทำการเปลี่ยนแปลงสูตรในการผลิต หรือเปลี่ยนแหล่งในการผลิตสินค้า เพื่อเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาษีนำเข้าสินค้า
ทั้งนี้ พีแอนด์จี เปิดเผยว่ามีความจำเป็นจะต้องยกเลิกแนวโน้มการประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจมีความผันผวนสูงและมีความยากลำบากมากขึ้นในการคาดการณ์แนวโน้มที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ในขณะเดียวกันต้นทุนของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่าง 1,000 ถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 33,000-49,500 ล้านบาท