วันที่ 16 กรกฎาคม บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน (Government Super App) หรือแอปพลิเคชันทางรัฐ เป็นแพลตฟอร์มที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA เป็นผู้พัฒนาหลัก โดยมีการว่าจ้างบลูบิค เพื่อส่งบุคลากรเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนระบบการลงทะเบียนซึ่งมีความซับซ้อนทางเทคนิค ให้สามารถทำงานรองรับปริมาณการทำธุรกรรมจำนวนมหาศาลให้เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งทางบลูบิค มีผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคระดับสูงเฉพาะทางในการพัฒนาระบบที่มีลักษณะดังกล่าว โดยในส่วนงานพัฒนาอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากระบบลงทะเบียน เช่น Digital Wallet และระบบงานบริการต่างๆของภาครัฐ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตการทำงานของโครงการนี้
แพลตฟอร์มดิจิทัลกลางดังกล่าวได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน โดยบุคลากรของทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเป็นผู้พัฒนา และเริ่มให้บริการตั้งแต่ปีพ.ศ. 2564 จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งที่ผ่านมาบลูบิคไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนี้ แต่เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้จำเป็นต้องมีการขยายผลต่อยอดเพื่อรองรับบริการต่างๆ ของภาครัฐเพิ่มขึ้น และกำลังทรัพยากรของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลมีจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องมีการว่าจ้างบุคลากรภายนอกเข้ามาช่วยในการพัฒนาเพิ่มเติม
โดยในส่วนงานที่บลูบิคจะเข้าไปช่วยสนับสนุน เป็นส่วนของการพัฒนาระบบลงทะเบียนที่สามารถรองรับผู้ใช้งานอย่างน้อย 50 ล้านราย การปรับปรุงการออกแบบหน้าจอ (UX/UI) และการตั้งค่าบริการคลาวด์ ซึ่งส่วนงานเหล่านี้จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์โดยตรง โดยทางบลูบิคมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เคยพัฒนาระบบขนาดใหญ่ อาทิ โมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking) ระบบซื้อขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล ระบบลงทะเบียนขนาดใหญ่ และระบบ Super Application เป็นต้น
บลูบิคเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation แบบครบวงจร ซึ่งให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ (Management Consulting) การให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Excellence and Delivery) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ (Big Data and Artificial Intelligence) การให้คำปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) และระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) โดยบลูบิคมีผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลกว่า 1,000 คนใน 4 ประเทศ เพื่อให้บริการองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม และหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก