บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนสูง จากหุ้น DELTA และ Sentiment ลบตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง หากหลุด 1,373 จุด เปิด downside รอลุ้นปัจจัยใหม่

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีปรับลงจากหุ้น DELTA และ Sentiment ลบ ของตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง สร้างสัญญาณลบทางเทคนิคให้วันนี้โอกาสปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,373 จุด เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่า จะเปิดด้าน Downside ของดัชนีให้ลงหาจุดต่ำเดิมบริเวณ 1,360 จุด ส่วนกรณียืนได้ คาดมีโอกาสฟื้นตัวกลับ ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1,390-1,400 จุด

ทั้งนี้ในช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และมีความผันผวนสูง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแรงขายจากกองทุน LTF ที่จะครบกำหนดในช่วงต้นปี 2568 รวมทั้งยังต้องรอปัจจัยชั้นำใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงต้องติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐ รวมทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิต ธ.ค. ของจีนและสหรัฐ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

โดยกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีม
เทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐออกมาตรการเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งในอดีตราคาหุ้นมักปรับตัวได้ดีอย่างน้อย 3 ใน 5 ปี แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO)
2. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก GULF OSP AMATA AU TIDLOR BCP
3. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แนะนำ IVL PTTGC

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่
•สนค.เผยดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน 4Q67 เพิ่มขึ้น 2.7% สาเหตุจากน้ำมันดีเซล ค่าจ้าง ดอกเบี้ยทรงตัวสูง และภาคท่องเที่ยว ส่งออกขยายตัว พร้อมคาด 1Q68 ยังเติบโตสูงขึ้น
•จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต ธ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.5 จากระดับ 51.5 ใน พ.ย. ต่ำกว่าตลาดคาดและถือเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปีนี้
•EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ก่อนลดลง 1.18 ล้านบาร์เรล ลดลงต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่วนสต็อกเบนซินและดีเซลกลับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนและเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาด
•สหรัฐฯ เผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2567 สะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง และเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมในการประชุมเดือนนี้
•ตลาดน้ำมันปาล์มเผชิญความไม่แน่นอน หลังอินโดนีเซียเลื่อนการบังคับใช้อัตราผสมเชื้อเพลิงไบโอดีเซล B40 ออกไป จากแผนเดิมที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 68 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตรา 35% (B35) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
•บราซิลรับตำแหน่งประธานหมุนเวียน BRICS ในวันที่ 1 ม.ค. นี้ และมีวาระสำคัญ เช่น การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศโลกใต้, ปฏิรูปการกำกับดูแลระหว่างประเทศ และอำนวยความสะดวกด้านการค้า
•ราคาหุ้น Apple ปรับลง 2.62%DoD หลังบริษัทเสนอโปรโมชันลดราคา iPhone รุ่นล่าสุดที่จำหน่ายในจีนลงสูงสุด 500 หยวน (US$68.50) ระหว่างวันที่ 4-7 ม.ค. นี้ เพื่อปกป้องส่วนแบ่งตลาดในจีนที่แข่งขันสูงขึ้น โดยเฉพาะจากคู่แข่งสำคัญอย่าง Huawei

ส่วนหุ้นเด่น ได้แก่
PTTEP: มองราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นแข็งแกร่งในระยะสั้นจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นและเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากกรณีกังวลความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานและงบดุลของบริษัทยังแข็งแกร่ง โดยปี 2567 คาดมีกำไรปกติ 7.7 หมื่นลบ. และมีหนี้สินต่อทุนสุทธิน้อยกว่า 0.3 เท่า ทั้งนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 125.50 บาท

TRUE: มองแนวโน้มกำไรที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นให้ปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดย 4Q67 คาดกำไรปกติจะยังเติบโต YoY แรงหนุนจากการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันด้านราคาที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หนุนให้ปี 2567 พลิกมีกำไรปกติ 8.1 พันลบ. และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.0 หมื่นลบ. ในปี 2568

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles