บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองหุ้นไทยเดือนมกราคม ยังผันผวน ในกรอบ 1,350-1,450 จุด จับตาหลายปัจจัยลบและปัจจัยบวก

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินว่าดัชนี SET ในเดือน ม.ค. มีความผันผวนในกรอบ 1,350-1,450 จุด จากทั้งปัจจัยด้านบวก และลบ โดยด้านบวกลุ้น January effect หนุนดัชนี ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ ความกังวลด้านนโยบายทางการค้าของทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 มกราคม รวมถึงการประชุมเฟดในเดือนนี้ที่ตลาดคาดว่าจะเป็นการคงดอกเบี้ย ทั้งนี้แนวโน้มราคา SET มีกรอบล่างบริเวณแนวรับ 1,380 และ 1,350 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนมีแนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,450 จุด ตามลำดับ

SET เดือน ธ.ค. 67 ปรับลงแทบทั้งเดือนส่งท้ายปี แม้ว่าดัชนีจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน หนุนจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ รวมทั้งปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐ แต่หลังจากนั้นในช่วงที่เหลือของเดือน SET ปรับลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยแวดล้อมเชิงลบกดดันทั้งจากในประเทศที่มาจากหุ้นขนาดใหญ่ถูกเทขายหลังเผชิญปัญหาด้านธรรมาภิบาล ฉุดรั้งให้หุ้นขนาดใหญ่อิ่นๆ ถูกขายตามไปด้วย รวมทั้งจากต่างประเทศหลังคณะกรรมการ FOMC ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 สร้าง sentiment ลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนีร่วงหลุดต่ำกว่า 1,400 จุดอีกครั้งก่อนฟื้นขึ้นช่วงปลายเดือน

SET เดือน ธ.ค. ต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 3 ที่ 1.0 หมื่นลบ. จากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 1.4 หมื่นลบ. ขณะที่ภาพรวมกระแส fund flow เดือนนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกราว 1.7 พันล้านเหรียญ โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนามราว 1.7, 0.7, 0.3, 0.3, 0.1 และ 0.1 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ มีเพียงตลาดหุ้นไต้หวันเพียงแห่งเดียวที่เป็นซื้อสุทธิราว 1.5 พันล้านเหรียญ

SET ปรับลงมาค่อนข้างลึก ทำให้มีความน่าสนใจในเชิง Valuation โดยหากอิงประมาณการกำไรตลาดฯ ปี 2568 ที่ราว 97 บาท/หุ้น และดัชนีที่ระดับบริเวณ 1400 จุด คิดเป็น Forward P/E ไม่ถึง 14.5 เท่า อีกทั้ง Earning Yield Gap ก็อยู่ในระดับที่น่าสนใจกว่า 4.6% กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ 1) หุ้น SET50 ซึ่งมี ESG Rating ตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว รวมทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่งและผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2568 2) หุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับลงมามาก แต่ยังมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะฟื้นกลับได้แรงจากการทำ Short Covering 3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 5 หมื่นบาท ในช่วง 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 เน้นหุ้นกลุ่มค้าปลีก

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles