บล.โกลเบล็ก ให้กรอบหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ดัชนีจะอยู่ที่ 1,360 – 1,385 จุด ยังคง Sideway

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาด หุ้นไทย ในสัปดาห์นี้ คาดว่ามีโอกาสแกว่งตัว Sideway โดยมีความหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ๆ พร้อมทั้งยังคงจับตาการเปิดเผยข้อมูล CPI และ PPI ของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินท่าทีของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Open Market Committee – FOMC) คือหน่วยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังเจ้าหน้าที่ FED หลายคนแสดงความเห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง จึงยังไม่ควรลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,360 – 1,385 จุด

ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามวันที่ 13-14 ..นี้ ประชุมครม.สัญจร ครั้งที่ 3/2567 ณ จังหวัดเพชรบุรี วันที่ 15 .. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (...) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและกำหนดวันสุดท้ายในการส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1/2567 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ วันที่ 14 .. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.. สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนเม..และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.. วันที่ 15 .. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม..ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.. ยอดค้าปลีกเดือนเม.. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.. และสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์ วันที่ 16 .. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน เม.. วันที่ 20 .. สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP 1Q67

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณดัชนี SET50 ที่จะประกาศกลางเดือนมิ..นี้ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะใช้ข้อมูลจนถึงกลางเดือนพ..ประกอบการพิจารณา โดยการเข้าคำนวณจะมีผลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ระหว่างวันที่ 1 .. – 31 .. 2567 โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ ได้แก่ BCP, BJC, ITC, TIDLOR

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า แนวโน้มราคาทองคำได้ตอบรับปัจจัยบวกจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.45% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ ด้วยเหตุผลว่าการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้นแตะที่ 105.3 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำในสัปดาห์นี้ โดยล่าสุดนายนีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงและตลาดที่อยู่อาศัยมีความแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันราคาทองคำตอบรับข่าวสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลไปแล้วทำให้ราคาทองคำกลับเคลื่อนไหวสวนทางเงินดอลลาร์ ขณะที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในเดือน ก.. และ ธ.. เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ เราแนะนำให้ติดตามการรายงานดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาปรับตัวลงตามคาดจะเป็นบวกต่อราคาทองคำ แนะนำเก็งกำไรในกรอบ 2,330-2,380$/oz

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles