ดัชนี SET หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,365.72 จุด ปรับขึ้น 1.41 จุด หรือ +0.10% มูลค่าซื้อขาย 43,085.76 ล้านบาท ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ และเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบสลับกัน โดยทำจุดสูงสุด 1,370.67 จุด และจุดต่ำสุด 1,356.51 จุด
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,421.84 ล้านบาท ปิดที่ 107.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
2. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,012.62 ล้านบาท ปิดที่ 250.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,743.14 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบหลังจาก SET ขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,360-1,370 จุดที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพื่อล็อกกำไรในระยะสั้น โดยมอง SET สัปดาห์นี้มีแนวรับ 1,330-1,340 จุด แนวต้านที่ 1,365-1,370 จุด
ขณะเดียวกัน การจัดงาน Thailand Focus ในวันนี้ยังไม่ได้ทำให้ตลาดขึ้นมาหวือหวา และจากสถิติในอดีตช่วงจัดงานคงยังไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันดัชนีขึ้นมาจากความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งตลาดในช่วงสั้นสะท้อนปัจจัยดังกล่าวแล้ว และยังต้องรอติดตามการจัดต้งรัฐบาลใหม่จะมีนโยบายอย่างไร จะดำเนินนโยบายเดิมต่อเนื่องหรือไม่ หรือจะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งเป็นภาพไม่แน่นอน นักลงทุนจึงไม่รีบร้อนเข้าซื้อ
นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ รวมถึงตลาดหุ้นไทย ต่างปรับขึ้นมาได้ดีกว่าหุ้นโลก จากเงินสกุลประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แข็งค่าอย่างรวดเร็ว ทั้งเปโซ ริงกิต รูเปี๊ยะห์ และเงินบาท ตอบรับทิศทางการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งมองว่าการที่ตลาดหุ้นฟื้นในช่วงเดือน ส.ค.อาจเป็นเพียงแรงเก็งกำไรของต่างชาติทั้งในค่าเงินและตลาดหุ้น โดยต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นไทยคาดว่าทำกำไรไปราว 15-20% จากเงินบาทแข็งค่า 9% และตลาดหุ้นไทยขึ้นมา 7% และหุ้นรายตัวขึ้นไปมากกว่า 7% ดังนั้น มองว่ามีโอกาสขายทำกำไรออกมา
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนี SET ยังแกว่งในกรอบ 1,357-1,370 จุด และเห็นว่าจะใช้เวลานานกว่าจะผ่านเส่นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นไปได้ จึงน่าจะเห็นแรงขายทำกำไรสลับออกมาในหุ้นรายตัว