ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 40,829 จุด +484 จุด หรือ +1.20% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,471 จุด +62 จุด หรือ +1.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,884 จุด +193 จุด หรือ +1.16%
ย้อนกลับไปเมื่อวันอังคารที่ 4 กันยายนผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการซื้อขายในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่งทำสถิติร่วงหนักใน 1 วันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 1 เดือน หรือตั้งแต่ 5 สิงหาคมผ่านมา
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดตกต่ำลง -2.9%, -4.3% และ -5.8% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 รายสัปดาห์ ทำสถิติย่ำแย่มากที่สุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมปี 2023 และดัชนีหุ้นนาสแดครายสัปดาห์ ทำสถิติย่ำแย่มากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือตั้งแต่ปี 2022
สิ้นสุดเดือนสิงหาคม ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +1.8%, +2.3% และ +0.7% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งถูกกระหน่ำเทขายอย่างรุนแรงในช่วงต้นเดือนสิงหาคม หรือเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม โดยทรุดตกต่ำลึกสุดของเดือนนี้ -5.4%, -7.3% และ -10.7% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภค และเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเปิดเผยในกลางสัปดาห์นี้ หลังก่อนหน้านี้เริ่มกังวลกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน กระทรวงแรงงาน สหรัฐ รายงานยอดจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 142,000 คน ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 160,000 คน อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 4.2% จากเดือนก่อนหน้านั้นที่ระดับ 4.3%