นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.29 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.20-36.50 บาทต่อ ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.24-36.37 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีการเคลื่อนไหวผันผวนไปตามโฟลว์ธุรกรรมทองคำ หลังในช่วงแรกราคาทองคำปรับตัวขึ้นราว +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทดสอบโซนแนวต้าน ก่อนที่จะเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องและจังหวะการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ กดดันให้ย่อตัวลงกลับสู่โซนแนวรับก่อนหน้าอีกครั้ง (เงินบาทเคลื่อนไหวสอดคล้องกับทิศทางราคาทองคำกว่า 75%ในช่วงนี้)
สำหรับการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็เป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะเดียวกัน รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงนี้ ก็ออกมาผสมผสาน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สำรวจโดย Conference Board ออกมาแย่กว่าคาด ส่วนดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตและภาคการบริการในพื้นที่ของเฟดสาขาต่างๆ ส่วนใหญ่ก็สะท้อนการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่นั้นๆ มากขึ้น ขณะที่ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) และดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ นั้นปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด
ส่วน แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในช่วงนี้ ก่อนที่ตลาดจะรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ในช่วงวันศุกร์ ซึ่งจะทำให้เงินบาทมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณเชิงเทคนิคัลที่ในช่วงสองวันที่ผ่านมา กราฟเงินบาทรายวัน ได้เกิดแท่งเทียนลักษณะ Spinning Top ถึงสองแท่ง สะท้อนถึงความไม่แน่ใจของผู้เล่นในตลาด
อย่างไรก็ดี เงินบาทก็อาจผันผวนอ่อนค่าไปได้บ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งน้ำมัน ทองคำ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศในช่วงปลายเดือน ทว่า การอ่อนค่าก็อาจจำกัดและไม่น่าจะอ่อนค่าเกินแนวต้าน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ง่าย ขณะที่ โซนแนวรับของเงินบาทในช่วงนี้ ก็อาจยังอยู่ในช่วง 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยหากนักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยบ้าง ก็อาจช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสวีเดิน (Riksbank) ในช่วงราว 15.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เพราะหาก Riksbank ลดดอกเบี้ยเซอร์ไพรส์ตลาด หรือส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยที่ชัดเจน ก็อาจกดดันให้เงินโครนสวีเดน (SEK) และบรรดาสกุลเงินหลักฝั่งยุโรปผันผวนอ่อนค่าลง หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้บ้าง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสวิตฯ (SNB) โดยในช่วงนี้ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด