ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) หรือ บาฟส์ เปิดเผยว่า บริษัทคาดปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในไตรมาส 2/2568 ยังเติบโตดีอยู่ที่ประมาณ 6% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานรวมของทุกทวีปปลายทางโดยเฉพาะยุโรปและตลาดอินเดีย แต่บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของตลาดจีนและเอเชียตะวันออก มาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ซึ่งเป็นโจทย์ของประเทศที่ต้องเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมทั้งให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย
ส่วนกลุ่มธุรกิจ Utilities ยังเติบโตต่อเนื่องของปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่อของ บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 37% ภายในปีนี้ด้วยปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่อ 1,290 ล้านลิตร เติบโตขึ้น 5%
บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ ระยะที่ 3 (อ่างทอง-สระบุรี) โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการราว 17% คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2569 คาดการณ์ภายหลังจากการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์จะส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดการขนส่งน้ำมันในพื้นที่ภาคเหนือสูงถึง 70% ภายในปี 2570 หรืออยู่ที่ 2,500 ล้านลิตร
ส่วนโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 สำหรับการขยายการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทพิจารณาการลงทุนพลังงานหมุนเวียนในประเทศมองโกเลีย และอยู่ระหว่างการการก่อสร้างสองโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่ญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าในปี 2568 มีรายได้รวม 3.8 พันล้านบาท หรือโตขึ้น 9% จากปีก่อนมาจากปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่โตขึ้นทั้งปีอยู่ที่ 5,400 ล้านลิตร โดย 4 เดือนแรกปีนี้มีปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานรวม 1,867 ล้านลิตร คิดเป็น 35% ของเป้าหมายทั้งปี สะท้อนถึงทิศทางเชิงบวกของอุตสาหกรรมการบินที่กลับมาเติบโตอย่างมั่นคง รวมทั้งการขนส่งน้ำมันทางท่อที่เติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่ ความคืบหน้าการต่อสัญญาสัมปทานเติมน้ำมันอากาศยานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัทซึ่งจะหมดอายุสัญญาปี 2569 คาดว่าบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.อยู่ระหว่างพิจารณาต่อสัญญา คงต้องใช้เวลาขึ้นอยู่กับหน่วยงานรัฐ แต่บริษัทมีศักยภาพให้บริการลูกค้าและพัฒนาตอบสนองอุตสาหกรรมการบิน
