บิทคอยน์ดิ่งแตะ 59,000 ดอลลาร์ จากแรงเทขายบิ๊กล็อต นักลงทุนพอร์ตแตก 250 ล้านดอลลาร์
ราคา บิทคอยน์ (Bitcoin) วันนี้ (25 มิ.ย.67)ปรับตัวลดลง 4.7% เคลื่อนไหวที่ระดับ 60,329 ดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 59,118 ดอลลาร์ในช่วงเช้ามืด โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากการไหลออกของ BTC ETF ที่เพิ่มขึ้น และนักเทรดที่คาดว่าแรงกดดันในการเทขายที่เป็นไปได้จากรัฐบาลเยอรมนี และแผนการของ Mt.Gox ที่จะชำระคืนเจ้าหนี้
เจ้าหนี้ Mt.Gox ประมาณ 127,000 ราย จะได้รับการชำระหนี้ Bitcoin กว่า 140,000 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 9.4 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคม เงินทุนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ Bitcoin ที่สูญหายไปจากการแฮก Mt. Gox ในปี 2557 ซึ่งการชำระหนี้ครั้งนี้ อาจส่งผลต่อราคา Bitcoin โดยเจ้าหนี้สามารถเลือกที่จะรับ Bitcoin หรือ Bitcoin Cash นักวิเคราะห์บางคนกังวลว่าการเทขาย Bitcoin จำนวนมากอาจส่งผลต่อราคา หากเจ้าหนี้ตัดสินใจขาย Bitcoin ทั้งหมด อาจทำให้ราคา Bitcoin ลดลง
โดย Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF อาวุโสของ Bloomberg กล่าวว่า สิ่งนี้อาจทำให้เกิดแรงกดดันในตลาด ซึ่งแรงกดดันในการขายอีกแห่งอาจมาจากรัฐบาลเยอรมนี ตามข้อมูลจาก Arkham Intelligence พบว่ากระเป๋าเงินมีการเคลื่อนไหวเกือบ 6,500 BTC เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.67
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 กระเป๋าเงินดังกล่าวได้ถือครองเกือบ 50,000 BTC ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ตามราคาในปัจจุบัน
ราคาของ BTC ลดลงภายหลังเกิดการไหลออกของ Bitcoin ETF ในสหรัฐ หลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่ามีการถอนออกเกือบ 1.12 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก CoinShares ยังแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์การลงทุน Bitcoin มีเงินไหลออก 630 ล้านดอลลาร์ระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน ถึง 21 มิถุนายน โดยเน้นว่า “การปรับฐานที่แท้จริงกำลังดำเนินการอยู่”
การไหลออกของ ETF เหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งสัญญาณนักลงทุนลดความเสี่ยง อีกทั้ง ข้อมูลจาก Coinglass เผยให้เห็นว่าตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin มีการชำระบัญชีมูลค่ากว่า 1,128.91 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยนักลงทุน long ถูกชำระบัญชีกว่า 119.01 ล้านดอลลาร์ ส่วนการชำระบัญชีทั้งหมดในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีการชำระบัญชีฝั่ง long กว่า 173 ล้านดอลลาร์
