นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับการนำ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เข้าระดมทุนด้วยการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น สรุป คือชะลอออกไปก่อนจากเดิมที่เคยคาดว่าจะนำเข้าในปีนี้ ดังนั้น ปี 2568 ไม่นำบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์เข้าตลาดหุ้นไทยแน่นอน
สำหรับผลประกอบการในปี 2567 นั้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2567 บิ๊กซียังสามารถเติบโตได้ถึง 2 หลัก ซึ่งเป็นผลจากผู้บริโภคที่ปรับพฤติกรรมซื้อสินค้าถี่บ่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม ในด้านยอดซื้อต่อใบเสร็จกลับพบว่ามียอดลดลงบ้าง สะท้อนจากผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย หรือรัดเข็มขัดชัดเจน
สิ่งสำคัญ คือ ประเทศไทยยังต้องฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการจับจ่ายใช้สอย ที่สำคัญ โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจในปี 2568 คือ กำลังซื้อไม่เติบโตโต ซึ่งสะท้อนผ่านการขึ้นเงินเดือน โบนัส หรือภาพรวมตลาดหุ้น ซึ่งมีผลต่อเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคโดยตรงชัดเจน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจับจ่ายในช่วงตรุษจีน และมาตรการรัฐบาล EASY E-RECEIPT 2.0 ที่อยู่ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะช่วยสนับสนุนยอดขายของธุรกิจบิ๊กซีให้เป็นไปตามที่คาดการณ์ที่ 1,180 ล้านบาท หรือเติบโตแบบให้ได้ 2 หลัก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2023 บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อธุรกิจเครือข่ายร้านซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อว่า AbouThai (อะเบาท์ไทย) ซึ่งเปิดบริการทั้งหมด 24 สาขาในฮ่องกงอย่างสมบูรณ์แบบ โดยจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตไทยระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด การซื้อกิจการในครั้งนี้คาดว่าใช้เงินไม่เกิน 300 ล้านบาท
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า บริษัท BRC วางงบประมาณมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 25.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 922 ล้านบาท เพื่อลงทุนในฮ่องกงในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า เพื่อเป้าหมายในการขยายเครือข่ายสาขาบิ๊กซีเพิ่มอีก 25 สาขาต่อปี ดังนั้น จะทำให้บิ๊กซีมีจำนวนสาขาในฮ่องกงครบ 99 สาขาภายในปี 2569 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ จะมีการจ้างงานพนักงานกว่า 500 ตำแหน่งด้วย
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กล่าวว่าบริษัทมีแผนจะจดทะเบียนคู่ขนานในตลาดหลักทรัพย์ หรือ dual listing ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทกำลังวางแผนที่จะยื่นไฟลิ่งในฮ่องกงต่อไป ซึ่งหวังว่าจะยื่นไฟลิ่งในฮ่องกงได้เร็วที่สุดภายในไตรมาส 4 ปีนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงด้วยเช่นกัน สาเหตุที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง เนื่องจากจะเป็นโอกาสในอนาคตในการร่วมงานกับบริษัทชั้นนำอื่นๆ ที่จดทะเบียนอยู่ในฮ่องกงด้วย