บิ๊กบอสแห่งค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยอมรับบุกตลาดรถอีวีเต็มแบตยังห่างไกลอีกมาก

บิ๊กบอสแห่งค่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยอมรับบุกตลาด รถอีวี เต็มแบตยังห่างไกลอีกมาก

นายโอลา แคลเลนเนียส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์รถยนต์หรูหราระดับโลกจากเยอรมนี กล่าวว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2024 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ 9 พฤษภาคม 2024 จะเตรียมแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและผู้เกี่ยวข้องรับทราบว่าการเปลี่ยนผ่านตลาดรถยนต์เครื่องสันดาปไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าต้องใช้เวลานานมากกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้

ถ้ายังมีความต้องการในตลาดยานยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงผลิตรถยนต์ด้วยเครื่องยนต์สันดาป และเครื่องยนต์ประเภทไฮบริดต่อไปจนถึงยุคทศวรรษ 2030

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดเผยว่า ยอดขายรถอีวีสุดหรูหราและมีราคาแพง เช่น รุ่น EQS และรุ่น EQE สร้างความผิดหวัง ซึ่งรถอีวีทั้ง 2 รุ่นถือได้ว่าเป็นสินค้าเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมากที่จะสร้างกำไรด้วยการตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นรุ่นติดอันดับขายดีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้านผลประกอบการ พบว่า หวัดดีครับ กำไรของบริษัททรุดต่ำลงถึง 9% ในไตรมาสที่ 1 ผ่านไป นับเป็นกำไรที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปีผ่านมา และยังต่ำกว่ากำไรคาดการณ์ในระยะยาวของบริษัทด้วย

การจัดส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีของแบรนด์ค่ายรถเยอรมนีในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ปรากฏว่า ผิดหวังจากเป้าหมาย ได้แก่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดส่งมอบรถอีวีร่วงลง -8% อย่างไรก็ตาม บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกลับมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง +41% หากพิจารณาในไตรมาสที่ 1 ของทั้ง 3 ยี่ห้อรถหรูค่ายเยอรมนี เกี่ยวกับสัดส่วนยอดขายรถอีวีเทียบยอดขายรถยนต์ทั้งหมด พบว่า บีเอ็มดับเบิลยูมี 13.9% เมอร์เซเดส-เบนซ์ทำได้ 10.3% และอาวดี้มี 9.0% ในขณะที่ทั้งปี 2023 ผ่านไป ทั้ง 3 ค่ายมีสัดส่วนรถอีวีเทียบกับยอดขายรถยนต์ทั้งหมดอยู่ที่ 14.7%, 11.8% และ 9.4% ตามลำดับ

เมื่อ 2 ปีผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศเป้าหมายในการขายรถยนต์นะดับสุดหรูหราที่มีราคาแพงในแต่ละกลุ่ม หรือเซ็กเม้นท์ ได้แก่ มายบัค(Maybach) รถเอสยูวีรุ่น จี-แวกอน และรถอีวีรุ่น EQS โดยตั้งเป้ารวมกันสูงถึง 60% ภายในปี 2026 และตั้งเป้าหมายเพิ่มกำไรจากการปฏิบัติงานราว 14% อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 ผ่านไป พบว่า ผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้กลับลดลงมากถึง 12.6% และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เตือนล่วงหน้าว่ากำไรจะลดลงต่อในปีนี้

ทั้งนี้ สำหรับ 2 แบรนด์หรูหรา ได้แก่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู นั้น พบว่า มากกว่า 90% ของรุ่นเอสคลาส และรุ่นซีรีย์ 7 ในตลาดจีน ยังคงเป็นเครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากรัฐบาลจีนยังไม่มีนโยบายที่จะห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้เครื่องสันดาปจนกระทั่งถึงปี 2060 ในขณะเดียวกัน การใช้สงครามลดราคาอย่างรุนแรงในจีน กลับไม่ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นความต้องการซื้อรถอีวีหรูหราอย่างรุ่น EQS

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles