นายสตีเฟ่น ฮาร์ททุง ประธานบริษัทโรเบิร์ท บ๊อช จีเอ็มบีเอช หรือ Robert Bosch GmbH ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ หัวเทียนรถยนต์ เครื่องมือช่าง ระบบและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ชื่อดังระดับโลกจากประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะตลาดรถยนต์ที่ซบเซาต่อเนื่อง ทำให้แผนการปลดพนักงานเพิ่มเติมขึ้นอีกจากที่ประกาศไปเมื่อช่วงสิ้นเดือนตุลาคมผ่านมาว่าจะปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวน 7,000 คนในประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ ยังได้ประกาศลดชั่วโมงทำงานของพนักงานในโรงงานหลายแห่งจำนวน 450 คนที่เยอรมนี จากเดิมทำงานระหว่าง 38-40 ชั่วโมง มาเหลือ 35 ชั่วโมง โดยจะเริ่มมีผลวันที่ 1 มีนาคม 2025
สาเหตุจากอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนีเผชิญกับภาวะซบเซาชัดเจน โฟล์คสวาเก้น เอจี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเยอรมนี มีผลกำไรดำดิ่งมากที่สุด และต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ทำให้ต้องตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ด้วยการปลดพนักงานจำนวนมาก สั่งปิดโรงงานผลิตรถยนต์กว่า 2-3 แห่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 8 ทศวรรษ และตัดลดเงินเดือนรวมผลตอบแทนของพนักงานลงมากถึง 10% จากอัตราปัจจุบัน ส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทบ๊อช จีเอ็มบีเอช ในปี 2024 นี้ จะลดต่ำลงกว่าในปี 2023 ที่ทำได้ 92,000 ล้านยูโร หรือกว่า 3.36 ล้านล้านบาท ขณะที่ผลตอบแทนจากการขายในปีนี้คาดการณ์ว่าจะเหลือเพียง 4% ลดต่ำจากคาดการณ์ว่าจะต้องเติบโตกว่า 5%
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2024 บริษัทโรเบิร์ท บ๊อช จีเอ็มบีเอช ประกาศปลดพนักงานมากกว่า 1,500 คนขึ้นไป โดยพนักงานที่เข้าข่ายถูกปลดออกในครั้งนี้อยู่ในโรงงานผลิตทั้ง 2 แห่งในประเทศเยอรมนี
สาเหตุจากบริษัทบ๊อชไม่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ที่ต้องปรับจำนวนการจ้างพนักงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์คำสั่งซื้อ โครงสร้างตลาดของยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลง และการเจาะเข้าถึงของเทคโนโลยีใหม่ๆในอนาคต นอกจากนี้ พนักงานที่เข้าข่ายจะต้องถูกปลดในรอบนี้ ได้แก่ ฝ่ายพัฒนา ฝ่ายธุรการ และฝ่ายขาย ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ที่โรงงานฟิวเออร์บัค และโรงงานชวิเบอร์ดิงเกนภายในปี 2025