วันที่ 11 สิงหาคม 2025 เวลา 20.00 น. ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หรือตรงกับ 7.00 น. ตามเวลาไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความดังนี้ ผมพึ่งเสร็จสิ้นการลงนามในคําสั่งผู้บริหารของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาให้ขยายการระงับเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับประเทศจีนไปอีก 90 วัน รายละเอียดทั้งหมดของข้อตกลงยังคงเหมือนเดิม ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้! โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
สำหรับการลงนามเลื่อนเส้นตายวันเก็บภาษีดังกล่าวจากเดิมในวันที่ 12 สิงหาคม 2025 นั้นจะส่งผลให้เส้นตายใหม่ถูกกำหนดเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 นี้ ขณะเดียวกัน ทางการจีนเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ (12 สิงหาคม) ว่า รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจเลื่อนการเก็บภาษีดังกล่าวกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐอเมริกาออกไปเป็นเวลา 90 วันด้วย การที่ทั้งสองฝ่ายเลื่อนวันเส้นตายดังกล่าวออกไป เนื่องจากยังคงมีปมสำคัญในการเจรจาภาษีโดยเฉพาะยาแก้ปวดเฟนทานิล ที่พบการลักลอบนำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานที่สหรัฐอเมริกาจะบังคับใช้กับจีน เนื่องจากจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดของน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซีย
ในสัปดาห์ที่ผ่านไป มีความเคลื่อนไหวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะมีการพบปะหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2025 การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในรอบที่ 3 ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน สิ้นสุดลง โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะขยายระยะเวลาการเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ระหว่างกันออกไป อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประกาศความคืบหน้าในการเจรจา หรือกำหนดเวลาที่ชัดเจนของการขยายเวลาการระงับการขึ้นภาษีแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้พบปะกับนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้สหรัฐลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่จีนลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125% โดยระยะเวลาผ่อนผัน 90 วันดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 12 ส.ค.
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2025 เซ้าท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ (SCMP) ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีน รายงานว่าแหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาข้อตกลงภาษีและการค้าของจีน เปิดเผยว่าการเจรจาภาษีและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริการอบที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2025 ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนนั้น ทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาจะเลื่อนวันที่มีผลบังคับใช้ หรือวันเส้นตายออกไปอีกเป็นเวลา 90 วัน หรืออีกสามเดือนข้างหน้า จากเดิมในการเจรจารอบที่ 2 ของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมีขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น ได้กำหนดวันมีผลบังคับใช้ หรือวันเส้นตายคือวันที่ 12 สิงหาคม 2025
แหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่าในการเจรจารอบที่ 3 ที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2025 นี้ ทั้งฝ่ายจีนและสหรัฐอเมริกาจะไม่มีการเสนอปรับขึ้นอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ให้สูงขึ้นจากอัตราในปัจจุบันที่ได้ตกลงกันไว้ในการประชุมรอบที่ 2 ที่กรุงลอนดอน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะไม่มีการตอบโต้ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มความขัดแย้งทางการค้าซึ่งกันและกัน
สำหรับหนึ่งในวาระสำคัญในการเจรจาภาษีและการค้ารอบที่ 3 พบว่า รัฐบาลจีน พิจารณาอัตราภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเก็บเพิ่มขึ้น 20% กับจีนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาจีนในปัญหาการลักลอบนำเข้ายาแก้ปวดเฟนทานิลนั้น จีนมองว่าไม่เป็นธรรมกับฝ่ายจีน แต่อาจจะพิจารณาอัตราภาษีทั่วไปที่ 10% ใช้กับสินค้านำเข้าทุกชนิด ถ้าหากอัตราภาษีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะเก็บเพิ่มสูงขึ้นนั้นได้รับการยกเลิก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 ผ่านมา นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกากับจีนบรรลุข้อตกลงในการเจรจาภาษีและการค้ารอบที่ 2 ด้วยการลดภาษีนำเข้าระหว่างกัน และมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 90 วัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับลดอัตราภาษีของตนลง 115 % นั่นหมายถึง สหรัฐอเมริกาลดภาษีนำเข้าต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs นำเข้าสินค้าจากจีนจากเดิม 145 % ลงเหลือ 30 % ขณะที่จีนเก็บภาษีดังกล่าวกับสินค้านำเข้าสหรัฐอเมริกาที่ 10 % จากเดิมที่ 125 %