ปธน.ทรัมป์สั่งกระทรวงพาณิชย์ขึ้นภาษีอีก 25% รวมเป็นเก็บ 50% เหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดา มีผลพรุ่งนี้ 12 มี.ค. ตอบโต้รัฐออนตาริโอ แคนาดาขึ้นภาษี 25% กับค่าไฟฟ้าส่งออกมารัฐนิวยอร์ก กดดันแคนาดายกเลิกภาษีต่อต้านเกษตรกรสหรัฐทันที ชี้ทางออกให้แคนาดาแปรสภาพเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ภาษีและทุกอย่างจะหมดสิ้นไป

ปธน.ทรัมป์สั่งกระทรวงพาณิชย์ขึ้น ภาษี อีก 25% รวมเป็นเก็บ 50% เหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดา มีผลพรุ่งนี้ 12 มี.ค. ตอบโต้รัฐออนตาริโอ แคนาดาขึ้นภาษี 25% กับค่าไฟฟ้าส่งออกมารัฐนิวยอร์ก กดดันแคนาดายกเลิกภาษีต่อต้านเกษตรกร สหรัฐ ทันที ชี้ทางออกให้แคนาดาแปรสภาพเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ภาษีและทุกอย่างจะหมดสิ้นไป

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนสื่อโซเชียลชื่อว่า ทรูธ โซเชียล มีข้อความว่า เนื่องจากรัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ประกาศขึ้นอัตราภาษี 25% กับราคาไฟฟ้าที่ผลิต และส่งออกมายังรัฐนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ผมจึงได้สั่งการไปยังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ให้ประกาศเพิ่มอัตราภาษีจัดเก็บสินค้าเหล็ก และอลูมิเนียมที่นำเข้าจากประเทศแคนาดาอีก 25% เมื่อรวมกับเดิมที่ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ผ่านมาที่จะเก็บเพิ่ม 25% ส่งผลให้อัตราภาษีรวมทั้งหมดเก็บเพิ่มเป็น 50% กับประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้อัตราภาษีศุลกากรที่สูงมากแห่งหนึ่งในโลก คำสั่งนี้จะมีผลในวันพรุ่งนี้ 12 มีนาคม 2025 ตั้งแต่เวลา 00.01 นาทีเป็นต้นไป

นอกจากนี้ประเทศแคนาดาจะต้องยกเลิกกฎหมายภาษีต่อต้านเกษตรกรรมสหรัฐอเมริกาทันที ซึ่งมีการจัดเก็บอัตราภาษีสูงระหว่าง 250% ถึง 390% กับผลิตภัณฑ์นมหลากหลายชนิดที่ผลิตและส่งออกจากสหรัฐอเมริกาเข้าไปยังแคนาดา ซึ่งกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นการรุกรานมาอย่างยาวนานกับสหรัฐอเมริกา ผมจะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านการไฟฟ้า ครอบคลุมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเก็บภาษีส่งออกไฟฟ้าจากแคนาดามายังรัฐนิวยอร์ก สิ่งนี้จะถือเป็นมาตรการ ที่ให้สหรัฐอเมริกาบรรเทาภัยคุกคามในการปฏิบัติในทางที่ไม่ถูกต้องกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาจากประเทศแคนาดา

ถ้าหากประเทศแคนาดายังไม่พิจารณายกเลิกกฎหมายภาษีดังกล่าว ผมจะประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีสูงมากขึ้นกับรถยนต์ที่ผลิตและส่งออกมาจากประเทศแคนาดา ซึ่งได้กำหนดไว้ว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนนี้ ซึ่งในที่สุดจะเป็นการ ปิดอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ของประเทศแคนาดา รถยนต์จากค่ายผู้ผลิตต่างๆเหล่านั้นสามารถที่จะผลิตในประเทศสหรัฐโดยไม่มีการจัดเก็บภาษีแต่อย่างใด

นอกจากนี้ประเทศแคนาดายังแสดงให้เห็นชัดเจนว่าให้ความสนใจน้อยมากต่อความมั่นคงแห่งชาติ แต่กลับพึ่งพาสหรัฐอเมริกาในด้านการปกป้องทางการทหาร รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะต้องอุดหนุน ประเทศแคนาดา เป็นจำนวนเงินมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี คำถามต่อไปคือทำไม สิ่งเหล่านี้จะต้องไม่มีการดำเนินการต่อไป มีเพียงสิ่งเดียวที่สมเหตุสมผลที่สุดคือประเทศแคนาดาจะต้องเปลี่ยนสถานะเป็นรัฐที่ 51 ของประเทศสหรัฐอเมริกา สิ่งนี้จะทำให้อัตราภาษีนำเข้าสินค้า และทุกสิ่งทุกอย่างอื่นๆ หายไปหมดสิ้น

อัตราภาษีของประเทศแคนาดาจะถูกปรับลดลงอย่างมาก ประชาชนแคนาดาจะมีความรู้สึกมั่นคงมากขึ้น รวมถึงด้านการทหาร อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และจะไม่มีปัญหาด้านพรมแดนภาคเหนือ และจะกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยพละกำลัง และความยิ่งใหญ่ในโลก ทุกสิ่งทุกอย่างจะยิ่งใหญ่ขึ้นจะดีขึ้น และจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าที่เคยผ่านมา และแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ของสิ่งเหล่านั้น

ปธน.ทรัมป์ โพสต์ต่อไปว่า เส้นแบ่งเขตชายแดนที่เสมือนจริง ซึ่งทำให้เกิดการแบ่งแยกที่มีมาอย่างยาวนานหลายปีจะหายไป แล้วจะกลายเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยมากที่สุดและสวยงามที่สุดมากกว่าประเทศใดๆ ในโลกนี้ และเพลงชาติของประเทศแคนาดาที่มีชื่อว่า โอ แคนาดา จะยังคงบรรเลง แต่นับจากนี้ไปจะหมายถึงรัฐที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่ ภายในประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่โลกใบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2025 ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลงนามในคำสั่งบริหารภายใต้กฎหมายขยายการค้าบนมาตรา 232 ด้วย การเก็บขึ้นอัตราภาษีศุลกากรหรืออัตราภาษีนำเข้าเป็น 25% กับสินค้าเหล็ก และปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมจากเดิม 10% เป็น 25% มีผลบังคับใช้กับทุกประเทศทั่วโลก และยกเลิกข้อยกเว้น หรือมาตรการบรรเทาภาษีดังกล่าว เช่น ยกเลิกโควต้าปลอดภาษีอากรเหล็กและอลูมิเนียมกับทุกประเทศที่เคยได้ประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากวันนี้ได้ลงนามในคำสั่งปรับขึ้นอัตราภาษีใหม่กับเหล็กและอะลูมิเนียมแล้ว รัฐบาลสหรัฐจะประกาศใช้มาตรการปรับปรุงมาตรฐานอเมริกาเหนือ โดยให้มีผลกับการนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม ด้วยการแปรสภาพเหล็กนำเข้าโดยการหลอมละลายและเท รวมถึงแปรสภาพอลูมิเนียมโดยการหลอมละลายและหล่อเป็นสินแร่อลูมิเนียมภายในพื้นที่ที่กำหนดไว้เมื่อการนำเข้าดังกล่าวมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อลดการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่แปรรูปจากประเทศจีน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐยังได้ประกาศคำสั่งไปยังกรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่รัฐบาลด้านการค้าแนวชายแดนของสหรัฐอเมริกาทั้งภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศ ให้ดำเนินการตรวจตราอย่างเข้มข้นกับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากต่างประเทศผ่านแนวชายแดน เพื่อป้องกันการแจ้งพิกัดและรายละเอียดสินค้าทั้ง 2 ประเภทที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เพื่อหวังผลในการหลบเลี่ยงอัตราภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่ ด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ จะประกาศมาตรการเก็บขึ้นภาษี 25% กับสินค้าเหล็กและอลูมินัมที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยอัตราภาษีดังกล่าวจะเป็นการเก็บเพิ่มเติมจากอัตราภาษีที่เก็บกับทั้ง 2 สินค้าในปัจจุบัน ต่อจากนั้น ในวันอังคารหรือไม่เกินภายในวันพุธนี้ จะประกาศมาตรการภาษีสินค้าต่างตอบแทนกับหลากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้สหรัฐอเมริกาทำการค้าขายอย่างเท่าเทียมกันกับนานาประเทศ

สำหรับอัตราภาษีใหม่ที่จะเก็บขึ้นถึง 25% จากอัตราภาษีเดิมของเหล็กและอลูมิเนียม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เคยประกาศใช้มาตรการภาษีดังกล่าว ประกอบด้วย เก็บเพิ่ม 25% กับเหล็ก และเก็บเพิ่ม 10% กับอลูมิเนียม เมื่อครั้งที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐครั้งแรก หรือในปี 2017 แต่ได้รับการประกาศใช้โควต้าปราศจากอัตราภาษีอากรให้กับประเทศยักษ์ใหญ่ ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และบราซิล ต่อมาอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ได้ขยายโควต้าดังกล่าวให้กับอังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศว่าในวันจันทร์หรือวันอังคารของสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐจะมีการประชุมเพื่อจะประกาศนโยบายภาษีสินค้าต่างตอบแทนกับหลากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้สหรัฐอเมริกาทำการค้าขายอย่างเท่าเทียมกันกับนานาประเทศ สหรัฐไม่ต้องการมากเกินไปในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการน้อยเกินไป

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่า นโยบายภาษีสินค้าต่างตอบแทน จะมีอัตราภาษีอยู่ระหว่าง 10 ถึง 20% ซึ่งจะใช้กับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ นโยบายดังกล่าวถือว่ามีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะไม่มีใครได้รับความเสียหาย คู่ค้าประเทศไหนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ สหรัฐก็เก็บอัตราภาษี ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน โดยเฉพาะอัตราภาษีสำหรับรถยนต์ ก็อยู่ในการพิจารณาด้วย ถือว่าเป็นรายการสินค้าขนาดใหญ่ สหรัฐจะต้องทำให้เกิดความเสมอภาคด้วย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวมาอย่างสม่ำเสมอว่า อัตราภาษีเก็บจากรถยนต์สหรัฐส่งออกไปยังยุโรปมากถึง 10% แต่ในขณะที่สหรัฐเก็บอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปเพียงแค่ 2.5%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles