ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดแถลงที่กรุงอาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต หรือยูเอี ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายของการเยือน 3 ประเทศในตะวันออกกลาง ว่า สำหรับความคืบหน้าการเปิดเจรจาภาษีและการค้าของสหรัฐอเมริกากับประเทศทั่วโลก ประเทศที่ยังไม่ได้เข้ารับการเจรจาภาษีและการค้ากับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาสามารถจะร้องเรียน หรืออุทธรณ์ภายหลังได้หลังจากเวลาชั่วคราว 90 วันได้หมดลงนอกจากนี้ ระดับบริหารนโยบายและเจ้าหน้าที่การเจรจาของสหรัฐอเมริกาอาจจะไม่สามารถพบเจอเพื่อเปิดการเจรจากับอีก 150 ประเทศที่เหลือ ซึ่งยังไม่ได้มีการเริ่มต้นเจรจากับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเลยก็ตาม
ผู้นำสูงสุดสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่าในอีกไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา จะส่งจดหมายภายใต้คณะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการไปให้ทุกประเทศที่ยังไม่สามารถเจรจาข้อตกลงภาษีและการค้าสำเร็จเป็นรูปธรรมได้ เพื่อระบุชัดเจนว่าในการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องมีภาระภาษี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งนั้นเป็นอย่างไร
ด้านซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายอมรับว่าการเจรจาภาษีและการค้ามีความคืบหน้าอย่างเชื่องช้า และไม่เพียงพอที่จะทำให้การเจรจาดังกล่าวกับแต่ละประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงภาษีและการค้าใหม่กับสหรัฐอเมริกาได้ การที่ทั้งกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกาจะส่งจดหมายเป็นทางการไปยัง 150 ประเทศนั้น จะเป็นการแจ้งถึงอัตราภาษีที่ประเทศต่างๆ จะต้องถูกเก็บตามที่ระบุในจดหมายดังกล่าวไว้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นเรื่องที่ยุติธรรมกับแต่ละประเทศด้วย
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์จำนวนมากล้วนมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณในเชิงแรงกดดันอย่างมากไปทุกประเทศ โดยเฉพาะความเสี่ยงและความไม่แน่นอนสูงมากที่แต่ละประเทศกว่า 150 ประเทศ ซึ่งยังไม่ได้เริ่มต้นการเจรจากับทีมเจรจาของสหรัฐอเมริกา อาจจะเจอกับอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs เดิมที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน หรืออาจเจออัตราภาษีการค้าใหม่สูงกว่าเดิม ซึ่งยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้อง