ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าได้แนะนำให้กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา หรือดีโอจีอี ให้ทำการทบทวนนโยบายการสนับสนุนเงินอุดหนุนให้กับบริษัทเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกและใน อเมริกาเป็นเจ้าของค่ายรถอีวีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐสหรัฐอเมริกา ท่าทีของนายจูโน่ช้ำดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายอีลอน มัสก์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ ร่างกฎหมายงบประมาณรัฐบาล ซึ่งกำลังจะมีการลงคะแนนให้ผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้นายอิออนมัสยังกล่าวว่าจะเคลื่อนไหวให้มีการดำเนินการปลดบรรดานักการเมืองที่สนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว
ร่างกฎหมายงบประมาณรัฐบาลสหรัฐอเมริกานี้ ซึ่งถูกเรียกว่า Big Beautiful Bill ได้รับการผลักดันและสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพลับลิกัน สำหรับหัวใจสำคัญของร่างกฏหมายฉบับนี้คือ การเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันจะมีการตัดการเก็บภาษี ส่งผลให้มีการประเมินว่าการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลต่อภาระหนี้สาธารณะจำนวนมากมายในอนาคตเพิ่มมากถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 99 ล้านล้านบาท
ความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก และซีอีโอค่ายรถอีวีเทสลา ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทเทสลา ดำดิ่งมากถึง 7.1% ทำสถิติราคาหุ้นเทสล่าต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 สัปดาห์ก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการในคืนวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลสูงมากขึ้นว่าความขัดแย้งครั้งใหม่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของนายอีลอน มัสก์ ไม่เพียงจำกัดอยู่แค่รถอีวียี่ห้อเทสลา แต่อาจลุกลามไปถึงธุรกิจยานอวกาศขนส่งสเปซ เอ็กซ์ ซึ่งมีสัญญากับรัฐบาลสหรัฐอเมริการวมเป็นมูลค่าสูงถึง 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 726,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ธุรกิจแท็กซี่ขับอัตโนมัติ หรือโรบอทแท็กซี่ที่กำลังทำการทดสอบอยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ และคาดว่าจะสร้างรายได้เติบโตอย่างมากมายในอนาคตด้วยการได้รับการอนุมัติให้ผลิตเพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณา และอนุมัติโดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้าไม่นานนัก ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนสื่อโซเชียลด้วยข้อความบางส่วนว่า นายอีลอน มัสก์ อาจได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสหรัฐเป็นจำนวนมากกว่ามนุษย์คนใดในประวัติศาสตร์ หากไม่มีเงินอุดหนุน นายอีลอน มัสก์ อาจต้องปิดโชว์รูมรถ และกลับบ้านที่ประเทศแอฟริกาใต้ จะไม่มีการเปิดตัวจรวด ดาวเทียม หรือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอีกต่อไป และประเทศของเราจะประหยัดเงินได้ บางทีควรให้กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา เข้ามาตรวจสอบให้หนักกับเรื่องนี้ เงินก้อนโตจะได้ถูกจะประหยัด!!!”
หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความดังกล่าวนั้น นายอีลอน มัสก์ ได้เข้ามาโพสต์ข้อความกลับไปว่า ผมกำลังพูดว่าตัดออกให้หมด ตอนนี้เลย ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในเวลาต่อมาว่า โดยตั้งคำถามว่า ใครต้องการรถไฟฟ้า? ผมไม่ต้องการรถไฟฟ้า หนึ่งปัญหาของรถไฟฟ้า คือมันระเบิดได้
ความขัดแย้งของทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายอีลอน มัสก์ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนผ่านมา ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดความขัดแย้งกับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก และในสหรัฐอเมริกา รวมถึงซีอีโอบริษัทสเปซ เอ็กซ์ และเทสลา เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าจะยกเลิกสัญญาของรัฐบาลกับบริษัทสเปซเอ็กซ์ของมหาเศรษฐีนายอีลอน มัสก์ ในขณะที่ นายอีลอน มัสก์ ถึงกลับโพสต์ข้อความว่าแนทรัมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ควรถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากรัฐสภาคองเกรส
ความขัดแย้งดังกล่าวเพียงชั่วข้ามคืนผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นกระหน่ำเทขายหุ้นของบริษัทเทสลาอย่างหนาตาตลอดทั้งคืนผ่านมา ทุบราคาหุ้นดำดิ่งลึกถึง -14.3% ทำให้สูญเสียมูลค่าบริษัทเทสลามากถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.95 ล้านล้านบาท ทำสถิติมูลค่าบริษัทเสียหายในหนึ่งวันที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเทสลา
นอกจากนี้ ความเสียหายที่มีต่อความมั่งคั่งส่วนตัวของนายอีลอน มัสก์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นเทสลาที่ดำดิ่งมากมายในคืนที่ผ่านมานั้น มีมากถึง 34,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.12 ล้านล้านบาทเพียงชั่วข้ามคืน ทำสถิติความเสียหายที่มากเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของกลุ่มมหาเศรษฐีที่ร่ํารวยที่สุด 500 คนแรกของโลก ก่อนหน้านี้ ความมั่งคั่งส่วนตัวของนายอีลอน มัสก์ เคยเสียหายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 ถึงกระนั้น นายอีลอน มัสก์ ยังคงเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ํารวยที่สุดในโลกในปัจจุบัน ด้วยมูลค่าความมั่งคั่ง 334,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 11.04 ล้านล้านบาท
สาเหตุความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย มาจากในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ เมื่อนายอีลอน มัสก์ ประณามมาตรการตัดลดภาษี และใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของนายทรัมป์ นายมัสก์มุ่งเป้าไปที่ร่างกฎหมายงบประมาณรัฐบาลที่นายทรัมป์เรียกว่าร่างกฎหมายที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม ซึ่งนายมัสก์ กลับเรียกร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวว่าสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนที่จะทําให้การขาดดุลของรัฐบาลกลางพุ่งสูงอย่างมากมายในอนาคต