รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) ว่า ผู้ส่งออกของสหรัฐฯ และเจ้าของเรือที่ให้บริการในเขตเกรตเลกส์ แคริบเบียน และดินแดนของสหรัฐฯ จะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเทียบท่าสำหรับเรือที่ต่อขึ้นในจีน ซึ่งการเก็บค่าธรรมเนียมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ และลดอิทธิพลของจีนในอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลระดับโลก
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศในเอกสารราชการว่า แผนการใหม่นี้ผ่อนคลายจากข้อเสนอเดิมเมื่อเดือนก.พ. ที่จะเก็บค่าธรรมเนียมสูงสุดถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อการเทียบท่า ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการเดินเรือทั่วโลก เนื่องจากบรรดาผู้บริหารในอุตสาหกรรมเดินเรือกังวลว่า บริษัทขนส่งทางเรือเกือบทุกแห่งอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนหลายรายการ ซึ่งค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเหล่านี้อาจทำให้สินค้าส่งออกจากสหรัฐฯ มีราคาสูงขึ้น และยังส่งผลให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องจ่ายค่าสินค้านำเข้าแพงขึ้นด้วย
ส่วนแผนการที่ปรับใหม่นั้น เรือแต่ละลำจะถูกเก็บค่าธรรมเนียมเทียบท่าเพียงครั้งเดียวต่อการเดินทาง และไม่เกิน 6 ครั้งต่อปี ซึ่งค่าธรรมเนียมใหม่จะเริ่มใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยเรือเทกองจะจ่ายค่าธรรมเนียมตามน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุก ส่วนเรือคอนเทนเนอร์จะจ่ายตามจำนวนตู้คอนเทนเนอร์
เรือที่เข้ามายังท่าเรือสหรัฐฯ โดยยังไม่บรรทุกสินค้า และจะมารับสินค้าเทกอง เช่น ถ่านหินหรือธัญพืชนั้น จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเทียบท่า รวมทั้ง ไม่เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามเปอร์เซ็นต์ของเรือที่ต่อขึ้นในจีนในฝูงเรือของแต่ละบริษัท หรือจากแผนการสั่งซื้อเรือจากจีนในอนาคต ซึ่งเคยเสนอไว้ในแผนเดิมก่อนหน้านี้