ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายอี แจ-มยอง โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการตกลงก็เจรจาภาษีและการค้ากับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีดังนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการขจัดข้อจำกัดสำคัญ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในการส่งออก และสร้างเงื่อนไขสำหรับภาคเอกชนเกาหลีใต้ ในการแข่งขันอย่างเสมอภาค หรืออยู่ในจุดที่ได้เปรียบมากกว่าประเทศสำคัญอื่น ๆ
เกาหลีใต้ตกลงที่จะจัดเงินลงทุนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11.38 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับการร่วมมือระดับทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกาในกลุ่มอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ โดยแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกราว 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.5 ล้านล้านบาท จะใช้กับตลาดเซมิคอนดักเตอร์ พลังงานนิวเคลียร์ แบตเตอรี่ไฟฟ้า ชีววิทยา และพลังงาน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างจุดแข่งขันให้กับเกาหลีใต้เข้าไปสู่ในตลาดของสหรัฐอเมริกา
เงินลงทุนชุดที่ 2 มีมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.88 ล้านล้านบาทจะใช้ในการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการต่อเรือของเกาหลีใต้เข้าไปในอุตสาหกรรมการต่อเรือของสหรัฐสหรัฐอเมริกา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ที่กลุ่มวอชิงตันดีซีสหรัฐอเมริกา กล่าวแถลงที่สถานทูตเกาหลีใต้ในสหรัฐ หลังจากนายโดนัลด์ทำประกาศข้อตกลงภาษีและการค้ากับเกาหลีใต้ ว่า สำหรับการลงทุนด้วยเงินลงทุนชุดที่ 2 นี้ คณะเจรจาการค้าของเกาหลีใต้ได้เสนอโครงการที่มีชื่อว่า สร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งในการต่อเรือของสหรัฐอเมริกา หรือ Make American Shipbuilding Great Again (MASGA) ซึ่งทราบกันดีว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการต่อเรือของสหรัฐให้กลับมายิ่งใหญ่ท่ามกลางการแพร่ขยายของอุตสาหกรรมต่อเรือของจีน ในปัจจุบันประเทศจีนมีความสามารถกำลังสามารถในการต่อเรือถึงกว่า 230 เท่า เมื่อเทียบกับสหรัฐสหรัฐอเมริกา
สำหรับเงินลงทุนมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.88 ล้านล้านบาทจะใช้ในการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการต่อเรือของเกาหลีใต้เข้าไปในอุตสาหกรรมการต่อเรือของสหรัฐสหรัฐอเมริกานั้น จะครอบคลุมอย่างครบวงจรนับนับตั้งแต่การสร้างและต่อเรือ การบำรุงซ่อมแซมเรือ การปรับปรุงเครื่องยนต์เรือ และอุปกรณ์และอะไหล่การต่อเรือ
สำหรับสินค้าภาคการเกษตรของทั้งสองประเทศนั้น เกาหลีใต้ไม่เปิดตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรของสหรัฐที่สำคัญสองอย่างได้แก่ ข้าวและเนื้อวัว ข้อตกลงในครั้งนี้ไม่นับรวม รายการอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมที่อ่อนไหวเช่น มาตรการห้ามนำเข้าเนื้อวัวที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปจากประเทศสหรัฐอเมริกา กฎระเบียบและข้อจำกัดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และข้อจำกัด การส่งออกข้อมูลแผนที่ความแม่นยำสูง
ด้านนายคิม ยอง-บีม หัวหน้าคณะเจรจาการค้าเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงภาษีและการค้าของทั้งสองประเทศในครั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลเกาหลีใต้ตกลงที่จะตัดลดอัตราภาษีกับสินค้ารถยนต์ที่ผลิตจากประเทศเกาหลีใต้จาก 25% ลงเหลือ 15%
ทั้งนี้ การเจรจาของทั้งสองประเทศจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันเส้นตาย 1 สิงหาคมนี้ ดำเนินมาถึงหัวข้อเจรจาสำคัญที่สุดที่สหรัฐอเมริกามีความต้องการสูงมาก นั่นคือการเปิดตลาดสินค้าภาคการเกษตร และสินค้าปศุสัตว์ในเกาหลีใต้ให้กับสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้ยืนยันว่าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสำคัญด้านความมั่นคงด้านอาหาร และปัจจัยอ่อนไหวต่อภาคการเกษตร