นายวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในปัจจุบัน เทียบกับต้นปี 2567 ผ่านมา พบว่ายอดขายรถอีวีออกมาต่ำกว่าที่ความคาดหมายไปมาก รวมถึงรถยนต์เครื่องสันดาปติดลบหนักด้วย สาเหตุจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้มีผลต่อคนไม่ต้องการซื้อรถใหม่ นอกจากนี้ การแข่งลดราคาของผู้ผลิตอีวีแบรนด์จีน ทำให้เกิดภาวะลดราคาบ่อยและถี่ขึ้น มีผลต่อผู้บริโภคในไทยเกิดความลังเลในการจะซื้อรถ โดยห่วงว่าราคาจะลดลงอีก จึงชะลอการตัดสินใจซื้อรถออกไป
ประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดว่าเป้าหมายยอดเบี้ยประกันรถอีวีที่คาดไว้ระดับ 120,000 ถึง 130,000 คันจะเป็นไปได้ยาก โดยจะลดต่ำลงมาใกล้เคียงปี 2023 ที่ระหว่าง 70,000-80,000 คัน จากตัวเลขใน 6 เดือนแรกปีนี้ จำนวนรถอีวีที่จดทะเบียนสะสมมีทั้งสิ้น 150,000 คัน คิดเป็นมูลค่าเบี้ยประกันรถอีวีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 20,000 บาทต่อคัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังกลับฟื้นตัวดีขึ้นมาก ราคาน้ำมันปรับแพงขึ้น อาจจะเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นให้คนตัดสินใจซื้อรถอีวีมากขึ้น เนื่องจากราคารถอีวีในวันนี้ถึงจุดที่น่าสนใจ และยังคาดหวังว่าสถาบันการเงินจะเริ่มผ่อนคลายในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นด้วย
สำหรับการปรับเบี้ยประกันอีวีนั้น ผลกระทบปีนี้ยังไม่มาก เพราะเป็นปีแรกที่เริ่มบังคับการให้ส่วนลดจากการเก็บพฤติกรรมการขับขี่ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันรถอีวีใหม่ ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2567 เป็นต้นไป โดยจะมีผลในการต่ออายุไตรมาส 2 ของปี 2568