นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังการโอนย้ายการปฏิบัติการการบินและบริการต่างๆ ทั้งหมดจากไทยสมายล์ จากแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะนี้ การบินไทยได้รับการโอนย้ายฝูงบินแอร์บัส A320 จำนวน 20 ลำ จากไทยสมายล์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ทำการบินทดแทนครอบคลุมเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในทุกเส้นทางบินของไทยสมายล์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง
โดยการนำไทยสมายล์มาอยู่ภายใต้การบริหารของการบินไทยอีกครั้ง นอกจากจะช่วยให้การบินไทยแข็งแกร่งขึ้น ยังทำให้มีฝูงบินเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องบินลำตัวแคบ จากที่ปัจจุบันบริษัทฯมีเฉพาะเครื่องบินลำตัวกว้าง ซึ่งจะส่งผลให้มีที่นั่งรองรับความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสาร มีความยืดหยุ่น คล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเครื่องบิน สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่ออีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการจำหน่ายบัตรโดยสารในรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายเที่ยวบิน (Network Sale) รวมไปถึงเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันด้านการบริหารจัดการต้นทุน
นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ กล่าวว่า การบินไทย มุ่งเน้นการเชื่อมต่อเที่ยวบินที่ราบรื่นด้วยเครือข่ายที่กว้างขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายสูงสุดให้แก่ผู้โดยสาร ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเครื่องบิน ผ่านการขยายเครือข่ายเส้นทางบินที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมความต้องการการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น ภายใต้แนวคิด “ONE THAI ONE FLY” โดยนำเครื่องบินแอร์บัส A320 ที่ได้รับการโอนย้ายมาจากไทยสมายล์ ไปปฏิบัติการการบินในเส้นทางที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ เส้นทางภายในประเทศ 8 เส้นทาง เส้นทางในกลุ่มประเทศ CLMV 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และประเทศอื่นๆ อาทิ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เนปาล ไต้หวัน เป็นต้น
สำหรับเครื่องบินแอร์บัส A320 ได้แบ่งรูปแบบการให้บริการเป็น 2 รูปแบบ คือ ชั้นประหยัด (Economy) และอีโคโนมีพลัส (Economy Plus) โดยในชั้นอีโคโนมีพลัส จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไปโดยให้บริการเฉพาะเส้นทางในประเทศ 8 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น กระบี่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ เส้นทางกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ พนมเปญ และเสียมราฐ (กัมพูชา) เวียงจันทน์ (ลาว) ย่างกุ้ง (พม่า) โฮจิมินห์ และฮานอย (เวียดนาม) รวมถึงประเทศอื่นที่สำคัญในภูมิภาค ได้แก่ ปีนัง (มาเลเซีย) กาฐมาณฑุ (เนปาล) โคลัมโบ (ศรีลังกา – จะเริ่มให้บริการในวันที่ 31 มีนาคม 2567) และเกาสง (ไต้หวัน)
ทั้งนี้ บริการอีโคโนมีพลัส (Economy Plus) จะให้บริการจนกว่าการปรับเปลี่ยน (Retrofit) ที่นั่งภายในห้องโดยสารแบบใหม่จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นที่นั่งแบบชั้นธุรกิจรอยัลซิลค์ (Royal Silk Class) บนเครื่องบิน A320 ที่สามารถปรับเอนได้ (Reclining Seats) นอกจากนี้ ยังมีแผนติดตั้งระบบ Wireless IFE เพื่อให้บริการสื่อสาระบันเทิงบนเครื่องบิน (In-Flight Entertainment) ภายในเครื่องบิน A320 ของการบินไทย โดยผู้โดยสารสามารถนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัว (BYOD :Bring Your Own Device) อาทิ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต มาเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อรับชมสาระความบันเทิงได้ตามต้องการ และมั่นใจว่าจะไม่พลาดข้อมูลสำคัญตลอดระยะเวลาการเดินทาง
