ปลัดคลังยอมรับตั้งเป้าจีดีพีปีนี้โต 3.5% ท้าทาย เตรียมเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนายกฯ เร่งฟื้นเชื่อมั่นตลาดทุน ศึกษา LTF-ESG พยุงตลาด

ปลัดคลัง ยอมรับตั้งเป้า จีดีพี ปีนี้โต 3.5% ท้าทาย เตรียมเสนอแผนกระตุ้น เศรษฐกิจ นายกฯ เร่งฟื้นเชื่อมั่นตลาดทุน ศึกษา LTF-ESG พยุงตลาด

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าเตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายด้าน มีทั้งการใช้เงิน และมาตรการอื่นที่ไม่ใช้เงิน เช่น เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ประสานบีโอไอผลักดันเอกชนผู้ได้รับบีโอไอในปี 67 หลังมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี จำนวนกว่า 3,100 โครงการ สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบีโอไอ หากผลักดันให้เกิดการลงทุนจริงได้จะเป็นเครื่องจักรสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในปี 68 นี้

โดยขณะนี้กระทรวงการคลังเตรียมเสนอออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาตลอดทั้งปี เมื่อภาครัฐและเอกชนร่วมกันทำอย่างจริงจัง คลังหวังว่าจะสามารถผลักดันจีดีพีเติบโตร้อยละ 3.5 ได้ตามเป้าหมาย ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายท้าทายอย่างมาก เพราะหากไม่มีมาตรการใดเพิ่มเติม จีดีพีอาจทำได้เพียงร้อยละ 2.8-3

ส่วนทางดูแล และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนนั้น กระทรวงการคลังยังเดินหน้าศึกษา แนวทางการรวมกองทุน LTF รวมกับ กองทุน ESG ด้วยการตั้งกองทุนขึ้นใหม่ ให้นักลงทุนถือครองระยะเวลา 5 ปี เพื่อช่วยเหลือและดูแลไม่ให้นักลงทุนขายกองทุน LTF ออกมาในช่วงนี้ ยอมรับผู้ถือหน่วยลงทุนขณะนี้เจ็บหนักเหมือนกัน หลังกองทุน LTF ครบกำหนดมูลค่าประมาณ 2.4 แสนล้านบาท แต่ขณะนี้มูลค่ากองทุนลดเหลือ 1.8 แสนล้านบาท คลังจึงต้องศึกษาเพิ่มเติมว่าจะให้สิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี หรือว่าดูแลนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างไรบ้าง คาดว่าสรุปเงื่อนไขทั้งหมดได้ภายในไตรมาส 1 ปี 68 นี้

ทั้งนี้หากออกเป็นกองทุนใหม่แล้ว ยังจะได้รับความสนใจในการเข้าซื้อกองทุนใหม่ LTF-ESG เนื่องจากในช่วงเปิดให้ออกกองทุน LTF จำหน่ายหน่วยลงทุนได้ 2.5-3 หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่กองทุน Thai ESG จำหน่ายได้เต็มวงเงินกำหนด 2.7 หมื่นล้านบาท จึงคาดว่าจะดูแลนักลงทุนไม่ให้ขาย LTF ออกไปได้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles