นายพิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจเสียงของผู้บริโภค ประจำปี 2567 ภาพรวมของเอเชียแปซิฟิก ฉบับประเทศไทย ของ PwC ว่า ความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจ ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคแสดงความกังวลต่อการจับจ่ายสินค้า โดย 54% ของผู้บริโภคชาวไทยกล่าวว่า ความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาคจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากที่สุดในอีก 12 เดือนข้างหน้า ตามมาด้วยปัจจัยเงินเฟ้อ (53%) และความเสี่ยงทางไซเบอร์ (41%)
“ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงได้ส่งผลต่อภาพรวมพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยคนไทยส่วนใหญ่มีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ก็ยังคงพยายามที่จะรักษาสมดุลระหว่างการใช้จ่ายที่จำเป็น และการปรับไลฟ์สไตล์ของตนให้ดีขึ้น โดยมองที่ความคุ้มค่าของเงินที่ต้องจ่ายเป็นสำคัญ” นายพิสิฐ กล่าว
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ PwC ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 504 ราย เกี่ยวกับแนวโน้มการจับจ่ายสินค้าและปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ เช่น เทคโนโลยีเกิดใหม่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และโซเชียลมีเดีย ในช่วงระหว่างเดือนม.ค. และ ก.พ.67 พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยจะให้ความสำคัญกับสินค้าที่จำเป็น (necessities) มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย (luxury items) ในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดย 69% คาดว่าจะใช้จ่ายกับสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม (60%) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (52%)
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า 4 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวไทย จะพิจารณาเปลี่ยนจากการซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ตนชื่นชอบ ไปใช้ตัวเลือกอื่นที่ราคาถูกกว่า หากได้รับความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากกว่า ขณะที่ 51% ยังรู้สึกพึงพอใจกับการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว การปรับปรุงที่อยู่อาศัย (50%) และเสื้อผ้าและรองเท้า (46%)
พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่ชื่นชอบใช้งานอินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ยังสอดคล้องกับรายงานของ PwC ที่พบว่า 73% ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทย มีการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (สูงกว่าเอเชียแปซิฟิกที่ 56% และทั่วโลกที่ 34%) โดยข้อมูลจากรายงาน Digital 2024: Thailand ที่จัดทำโดย We Are Social และ Meltwater ระบุว่า ในช่วงต้นปี 2567 มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ทั้งสิ้น 63.21 ล้านคน โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการท่องอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยเกือบ 8 ชั่วโมง/วัน ขณะที่มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในประเทศมากกว่า 49 ล้านคน
แต่แม้ว่าผู้บริโภคชาวไทยจะชื่นชอบการทำกิจกรรมการชอปปิ้งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งการค้นหาแบรนด์ใหม่ๆ (82%) หรือซื้อสินค้าหรือบริการที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ (62%) แต่พวกเขากลับจัดอันดับให้บริษัท และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย มีความน่าเชื่อถือน้อยที่สุด โดย 77% กล่าวว่า มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (privacy) และการแบ่งปันข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย
นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยยังหันมาให้ความสำคัญกับการบริโภคสินค้าเพื่อความยั่งยืน (sustainable products) มากขึ้น โดยรายงานระบุว่า 95% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในชีวิตประจำวัน จึงเป็นเหตุให้ผู้บริโภคชาวไทยมากกว่าครึ่ง (58%) เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น และยังเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 11.7% ของราคาสินค้าโดยเฉลี่ย ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกและเอเชียแปซิฟิกที่ 9.7% และเกือบ 11% ตามลำดับ