นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ปี 2567 นี้ยังเป็นปีที่เหนื่อยมากถึงแม้ว่าปัจจัยความไม่แน่นอนจะน้อยลงเมื่อประเมินจากสถานการณ์ต่างๆทั่วโลกแต่เชื่อว่าช่วงหลังจากนี้ไป ตลาดหุ้นไทย จะเห็นจุดเปลี่ยนแปลงเนื่องจากมองว่าภาครัฐจะมีการใช้จ่ายได้มากขึ้นขณะที่ภาคธุรกิจที่เข้มแข็งเริ่มกลับมาแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
หากในปีนี้ เหตุไม่คาดฝันไม่ปรากฏขึ้นมา ตลาดหุ้นไทยน่าจะดีกว่าปีก่อน แต่จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างๆ ยังแนะนำให้นักลงทุนควรมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ยิ่งขึ้น
สำหรับค่าเงินบาทนั้น มีทิศทางอ่อนค่าเกิดขึ้น เพราะเงินทุนต่างชาติไหลออก โดยเฉพาะจากหุ้นขนาดใหญ่ อีกทั้งเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติจะนำเงินปันผลที่ได้กลับไปยังประเทศต้นทาง แม้เดือน ก.พ. 2567 ผู้ลงทุนต่างชาติจะกลับมาสู่ตลาดหุ้นไทย แต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมามีการขายสุทธิ 41,238 ล้านบาท ส่งผลให้ 3 เดือนแรกของปี 67 มีการขายสุทธิรวม 68,862 ล้านบาท ดังนั้น หลังจากนี้สถานการณ์ผู้ลงทุนต่างชาติจะกลับมาเป็นซื้อสุทธิได้ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่ 1) สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลก 2) ทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย และ 3) ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม 2567 นี้ ผู้ลงทุนต่างชาติยังมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 23
มุมมองเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น มองว่า ปัจจุบันเรื่องต่างๆ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น และจากสถานการณ์นี้ทำให้เห็นแนวโน้มและโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นน่าจะสูงขึ้น เนื่องจากกรรมการที่ตัดสินใจลดดอกเบี้ยฯ มีจำนวนมากขึ้น โดยต้องจับตาการประชุม กนง. ในวันนี้ 10 เม.ย. 2567
อย่างไรก็ตาม จากกรณีต่างๆ ในตลาดหุ้นช่วงที่ผ่านมา ทั้งบริษัทจดทะเบียนเลื่อนการชำระหุ้นกู้ (มองว่าเป็นวงจรธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นในบางบริษัทฯ ที่บางช่วงสภาพคล่องไม่ดี) และกรณีผลกระทบอื่นๆ ซึ่งทำให้ทาง ตลท. ออกแผนสร้างความเชื่อมั่นในนักลงทุน ผ่านการปรับเกณฑ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และให้มีการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงการใช้เครื่องมือแจ้งเตือนนักลงทุนให้รวดเร็วรอบด้าน ทั้งนี้ ประเมินว่าจะดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้
ทั้งนี้ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยอมรับว่า การการขยายเวลาซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 30 นาที ไม่ได้ทำให้ธุรกรรมการซื้อขายเพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่า การขยายเวลาซื้อขายหุ้นนั้น ทำเพื่อให้นักลงทุนสะดวกยิ่งขึ้น และมีช่วงเวลาในการซื้อขายใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ไม่ได้หวังว่าการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นมากนัก